นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เป็นห่วงสถานการณ์เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า ส่งผลให้เงินสกุลอื่นๆ แข็งค่าขึ้น รวมทั้งเงินบาท ซึ่งสาเหตุหลักมาจากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์โลก และความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ เช่น สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือ ทำให้เงินทุนเคลื่อนย้ายผิดปกติ ไม่สามารถคาดเดาแนวโน้มอัตราแลกเปลี่ยนได้ ซึ่งที่ผ่านมา แม้ว่าเงินบาทผันผวนไม่รุนแรง เคลื่อนไหวอยู่ในระดับกลางเมื่อเทียบกับเงินสกุลภูมิภาค แต่ผู้ประกอบการไม่ควรชะล่าใจ ควรป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไว้ล่วงหน้า ( เฮดจิ้ง) เพราะ ธปท. ไม่สามารถฝืนกระแสได้ และไม่ได้ใช้นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อการส่งออก
ทั้งนี้ จากการศึกษาของธปท. พบว่า ผู้ส่งออกไทยกว่าร้อยละ 60 ไม่ได้ทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน( เฮดจิ้ง ) โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดเล็กถึงร้อยละ 75 ที่ไม่ทำเฮดจิ้ง
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยเก็งกำไรทิศทางค่าเงิน และเลือกที่จะไม่ป้องกันความเสี่ยง เพราะคิดว่าทางการจะคอยดูแลไม่ให้ค่าเงินเคลื่อนไหวมาก แต่จะป้องกันความเสี่ยงเมื่อค่าเงินผันผวนไปในทิศทางที่ไม่ต้องการ ซึ่งจะยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อค่าเงินบาทมากขึ้น