พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กล่าวถึงกรณี ป.ป.ท.ตรวจสอบทุจริตโครงการรับจำนำข้าวจากเกษตรกร ว่า โครงการรับฝากข้าวปี 2555-2556 มีการปรับนโยบายด้วยการเช่าโกดังและจ้างเซอร์เวเยอร์ตรวจสอบคุณภาพข้าว มีหัวหน้าคลังดูแล โดยพบว่าบริษัทแห่งหนึ่งมีสัญญารับผิดชอบดูแลโกดังข้าวเกือบ 100 โกดัง ซึ่งอาจเกินความสามารถดูแลให้ข้าวมีคุณภาพ ทำให้มีปัญหาข้าวเสียหายจำนวนมาก จึงต้องตรวจสอบว่าใครอยู่เบื้องหลังบริษัทเซอร์เวย์เยอร์ที่ได้รับว่าจ้างจากองค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ให้ดูแลคุณภาพข้าวเกือบ 100 โกดัง รวมถึงมีข้อมูลว่าเจ้าหน้าที่ อคส. และ อ.ต.ก. ที่ดูแลโกดังมีส่วนทำให้ข้าวที่อยู่ในโกดังไม่ได้มาตรฐานมีการมอบเจ้าหน้าที่ 1 คน ดูแล 30 โกดัง ซึ่งเกินขีดความสามารถ โดย ป.ป.ท.ได้กำหนดกรอบเวลาไต่สวนคดีทุจริตรับฝากข้าวโครงการรับจำนำข้าว 987 สำนวน ให้เสร็จภายในเดือน มิ.ย. โดยผู้อยู่ในข่ายกระทำความผิด มีทั้งหัวหน้าคลังฯ และเซอร์เวเยอร์ ซึ่งมีรายชื่ออยู่แล้ว
ด้าน พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ท. กล่าวว่า ขณะนี้ ป.ป.ท.เขตพื้นที่ 1-9 อยู่ระหว่างตรวจสอบการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดูแลข้าวในโกดัง ซึ่งต้องเร่งรัดให้แล้วเสร็จตามกรอบเวลา หลังจากนี้จะขยายผลตรวจสอบธุรกรรมการเงินของผู้เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งจะขอให้บอร์ด ป.ป.ท. มีมติตั้งอนุกรรมการไต่สวนความเชื่อมโยงและสายสัมพันธ์ของบริษัทเซอร์เวเยอร์ที่ได้รับสิทธิเป็นคู่สัญญากับ อสค. และ อ.ต.ก. กว่า 100 โกดัง หลังพบข้าวสูญหายและเสื่อมคุณภาพ
ด้าน พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ท. กล่าวว่า ขณะนี้ ป.ป.ท.เขตพื้นที่ 1-9 อยู่ระหว่างตรวจสอบการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดูแลข้าวในโกดัง ซึ่งต้องเร่งรัดให้แล้วเสร็จตามกรอบเวลา หลังจากนี้จะขยายผลตรวจสอบธุรกรรมการเงินของผู้เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งจะขอให้บอร์ด ป.ป.ท. มีมติตั้งอนุกรรมการไต่สวนความเชื่อมโยงและสายสัมพันธ์ของบริษัทเซอร์เวเยอร์ที่ได้รับสิทธิเป็นคู่สัญญากับ อสค. และ อ.ต.ก. กว่า 100 โกดัง หลังพบข้าวสูญหายและเสื่อมคุณภาพ