พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการดูแลความปลอดภัยในการสัญจรของประชาชนตามมาตรการ "ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ" ช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า คสช.ยังคงเข้มงวดในมาตรการสร้างความปลอดภัย "ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ" เนื่องจากประชาชนจำนวนมากได้ทยอยเดินทางกลับจากการเฉลิมฉลองและท่องเที่ยวในเทศกาลสงกรานต์ ทำให้การสัญจรในเส้นทางต่าง ๆ เริ่มมีความหนาแน่นเป็นระยะและคาดว่าจะหนาแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งนี้ คสช.ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ปรับการอำนวยการจราจรให้สะดวกที่สุดและทันต่อสภาพการใช้รถใช้ถนน ทั้งในสายหลัก สายรอง และทางลัดมีการเปิดพื้นที่ผิวการจราจรเพิ่มช่องทางพิเศษ เพื่อเร่งระบายการจราจรตามเส้นทางให้คล่องตัวที่สุด ควบคู่ไปกับการดูแลและอำนวยความสะดวกประชาชนด้านต่าง ๆ ตลอดเส้นทาง
สำหรับสถิติการตรวจพบผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุโดยประมาทด้วยการดื่มแล้วขับขี่ในวันที่ 15 เมษายน มีดังนี้ รถจักรยานยนต์ พบการกระทำความผิด 88,715 ครั้ง เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องยึดไว้ 1,336 คัน และส่งผู้กระทำผิดดำเนินคดี 53,758 คน สำหรับรถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล พบการกระทำความผิด 87,685 ครั้ง เจ้าหน้าที่ได้ยึดใบขับขี่ไว้ 1,107 คน ยึดรถยนต์ 416 คัน ส่งผู้กระทำความผิดดำเนินคดี 45,144 คน
อย่างไรก็ตาม ตลอด 4 วันที่ผ่านมา (12-15 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตรวจพบการกระทำความผิดในส่วนรถจักรยานยนต์ 240,004 ครั้ง รถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ 216,590 ครั้ง เจ้าหน้าที่ได้ยึดรถที่ฝ่าฝืนมาตรการดื่มไม่ขับไว้แล้ว 5,212 คัน แยกเป็นจักรยานยนต์ 3,969 คัน และรถยนต์ 1,243 คัน และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด รถจักรยานยนต์ 164,584 คน รถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล 136,841 คน โดยรถที่ถูกควบคุมไว้นั้น เจ้าหน้าที่ได้ดูแลและจัดหาสถานที่เก็บรักษาไว้อย่างเหมาะสม ซึ่งเจ้าของรถสามารถติดต่อขอรับคืนได้ตามเวลาที่กำหนด
ทั้งนี้ คสช.ขอให้ประชาชนที่เดินทางกลับได้เตรียมความพร้อมด้านสุขภาพ ตรวจสอบยานพาหนะ มีสมาธิในการขับขี่ ปฏิบัติตามกฎจราจร และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ รวมถึงแบ่งปันเส้นทางให้กับผู้ใช้ถนน เพื่อความปลอดภัยตลอดการเดินทางของทุกคน
สำหรับสถิติการตรวจพบผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุโดยประมาทด้วยการดื่มแล้วขับขี่ในวันที่ 15 เมษายน มีดังนี้ รถจักรยานยนต์ พบการกระทำความผิด 88,715 ครั้ง เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องยึดไว้ 1,336 คัน และส่งผู้กระทำผิดดำเนินคดี 53,758 คน สำหรับรถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล พบการกระทำความผิด 87,685 ครั้ง เจ้าหน้าที่ได้ยึดใบขับขี่ไว้ 1,107 คน ยึดรถยนต์ 416 คัน ส่งผู้กระทำความผิดดำเนินคดี 45,144 คน
อย่างไรก็ตาม ตลอด 4 วันที่ผ่านมา (12-15 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตรวจพบการกระทำความผิดในส่วนรถจักรยานยนต์ 240,004 ครั้ง รถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ 216,590 ครั้ง เจ้าหน้าที่ได้ยึดรถที่ฝ่าฝืนมาตรการดื่มไม่ขับไว้แล้ว 5,212 คัน แยกเป็นจักรยานยนต์ 3,969 คัน และรถยนต์ 1,243 คัน และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด รถจักรยานยนต์ 164,584 คน รถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล 136,841 คน โดยรถที่ถูกควบคุมไว้นั้น เจ้าหน้าที่ได้ดูแลและจัดหาสถานที่เก็บรักษาไว้อย่างเหมาะสม ซึ่งเจ้าของรถสามารถติดต่อขอรับคืนได้ตามเวลาที่กำหนด
ทั้งนี้ คสช.ขอให้ประชาชนที่เดินทางกลับได้เตรียมความพร้อมด้านสุขภาพ ตรวจสอบยานพาหนะ มีสมาธิในการขับขี่ ปฏิบัติตามกฎจราจร และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ รวมถึงแบ่งปันเส้นทางให้กับผู้ใช้ถนน เพื่อความปลอดภัยตลอดการเดินทางของทุกคน