วันนี้ (15 เม.ย.) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนจากทั่วประเทศ จำนวน 1,287 คน ต่อกรณีหลังการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2560 เมื่อวันที่ 6 เมษายน ทำให้มีพรรคการเมืองออกมาเรียกร้องให้ คสช.ผ่อนปรนให้สามารถทำกิจกรรมทางการเมืองได้ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 42.83 เห็นด้วยกับการที่พรรคการเมืองออกมาเรียกร้องให้ คสช.ผ่อนปรนให้พรรคการเมืองไทยสามารถทำกิจกรรมทางการเมืองได้ โดยให้เหตุผลว่า เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ทุกพรรคย่อมมีสิทธิเสรีภาพ อยากเห็นแนวคิด วิสัยทัศน์ เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ แต่ละพรรคต้องเตรียมพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้ง แต่ต้องอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม
ขณะที่ประชาชนร้อยละ 30.15 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย เพราะที่ผ่านมาก็มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอด แต่มีมาตรา 44 ควบคุมอยู่ ถ้าไม่มีอาจสร้างความวุ่นวายมากขึ้นกว่าเดิม และเพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ส่วนประชาชนร้อยละ 27.02 ระบุว่า ไม่แน่ใจ เพราะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ คสช. และอาจเป็นการออกมาเรียกร้องเพื่อหวังผลอย่างใดอย่างหนึ่ง
ทั้งนี้ หลังจากประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2560 ประชาชนส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 74.44 อยากเห็นพรรคการเมืองไทยเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสังคม ไม่สร้างความแตกแยก ร้อยละ 71.87 อยากเห็นพรรคการเมืองไทยมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือบ้านเมือง พัฒนาประเทศให้ดีขึ้น และร้อยละ 65.19 อยากเห็นพรรคการเมืองไทยเคารพกฎหมาย กติกา และระบอบประชาธิปไตย
สำหรับกิจกรรมต่างๆ หลังจากประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2560 ประชาชนส่วนใหญ่ หรือร้ยอละ 64.65 อยากเห็นพรรคการเมืองไทยเตรียมพร้อมสู่การเลือกตั้ง คัดเลือกผู้สมัคร และกำหนดวิสัยทัศน์ นโยบาย ร้อยละ 55.71 อยากเห็นพรรคการเมืองไทยลงพื้นที่พบปะประชาชน พัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น และร้อยละ 51.75 อยากให้พรรคการเมืองไทยสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างพรรคการเมืองด้วยกัน และเสริมสร้างความปรองดอง
ส่วนพรรคการเมืองไทยที่ประชาชนอยากให้เป็นรัฐบาล ร้อยละ 80.26 ระบุ ต้องเป็นพรรคการเมืองที่ยึดหลักธรรมาภิบาล ซื่อสัตย์ สุจริต คำนึงถึงส่วนรวมเป็นสำคัญ ร้อยละ 77.78 ระบุ เป็นพรรคการเมืองที่สามารถบริหารบ้านเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ แก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ดีขึ้น และร้อยละ 169.08 ระบุ เป็นพรรคการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง และมาจากการตัดสินใจของประชาชน
ขณะที่ประชาชนร้อยละ 30.15 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย เพราะที่ผ่านมาก็มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอด แต่มีมาตรา 44 ควบคุมอยู่ ถ้าไม่มีอาจสร้างความวุ่นวายมากขึ้นกว่าเดิม และเพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ส่วนประชาชนร้อยละ 27.02 ระบุว่า ไม่แน่ใจ เพราะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ คสช. และอาจเป็นการออกมาเรียกร้องเพื่อหวังผลอย่างใดอย่างหนึ่ง
ทั้งนี้ หลังจากประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2560 ประชาชนส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 74.44 อยากเห็นพรรคการเมืองไทยเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสังคม ไม่สร้างความแตกแยก ร้อยละ 71.87 อยากเห็นพรรคการเมืองไทยมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือบ้านเมือง พัฒนาประเทศให้ดีขึ้น และร้อยละ 65.19 อยากเห็นพรรคการเมืองไทยเคารพกฎหมาย กติกา และระบอบประชาธิปไตย
สำหรับกิจกรรมต่างๆ หลังจากประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2560 ประชาชนส่วนใหญ่ หรือร้ยอละ 64.65 อยากเห็นพรรคการเมืองไทยเตรียมพร้อมสู่การเลือกตั้ง คัดเลือกผู้สมัคร และกำหนดวิสัยทัศน์ นโยบาย ร้อยละ 55.71 อยากเห็นพรรคการเมืองไทยลงพื้นที่พบปะประชาชน พัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น และร้อยละ 51.75 อยากให้พรรคการเมืองไทยสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างพรรคการเมืองด้วยกัน และเสริมสร้างความปรองดอง
ส่วนพรรคการเมืองไทยที่ประชาชนอยากให้เป็นรัฐบาล ร้อยละ 80.26 ระบุ ต้องเป็นพรรคการเมืองที่ยึดหลักธรรมาภิบาล ซื่อสัตย์ สุจริต คำนึงถึงส่วนรวมเป็นสำคัญ ร้อยละ 77.78 ระบุ เป็นพรรคการเมืองที่สามารถบริหารบ้านเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ แก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ดีขึ้น และร้อยละ 169.08 ระบุ เป็นพรรคการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง และมาจากการตัดสินใจของประชาชน