นายเสาวภักดิ์ สกุลโรมวิลาศ อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย สภาทนายความ เปิดเผยถึงคดี น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ ซินแสโชกุน กรรมการบริหารบริษัทเวลท์เอเวอร์ จำกัด ผู้ต้องหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ที่ลอยแพผู้เสียหายทัวร์ญี่ปุ่นนับพันราย ว่า คดีนี้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนในวงกว้าง และเป็นความผิดอาญาแผ่นดินไม่สามารถยอมความกันได้ สภาทนายความได้ติดตามเรื่องนี้มาตลอด เบื้องต้น เมื่อบุคคลที่ได้รับความเสียหายสามารถร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนในท้องที่ใดก็ได้ที่ตนมีภูมิลำเนา ซึ่งเมื่อร้องทุกข์แล้วจะมีการวบรวมสำนวนส่งพนักงานสอบสวนกองปราบปราม สรุปสำนวนพร้อมความเห็นส่งพนักงานอัยการ หากพนักงานอัยการยื่นฟ้อง ผู้เสียหายสามารถร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ก่อนศาลพิพากษาคดีตามกฎหมาย ป.วิอาญามาตรา30 และเมื่ออัยการร้องขอเรียกทรัพย์สินที่ผู้เสียหายคืนตามมาตรา 43แล้ว ผู้เสียหายยังใช้สิทธิเรียกค่าเสียหายนอกเหนือจากที่พนักงานอัยการโดยใช้ช่องทางตามมาตรา44/1 และต้องใช้ทนายความในการช่วยเหลืออรรถคดีไปพร้อมกัน ดังนั้น หากผู้เสียหายต้องการความช่วยเหลืออาจร้องขอมายังสภาทนายความ บางเขน เพื่อพิจารณาตามระเบียบเพื่อรับเป็นคดีพิเศษ โดยให้มาร้องขอในวันเปิดทำการหลังสงกรานต์ จะมีทนายความอาสาสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น
ส่วนค่าใช้จ่ายทางคดีทั้งสามชั้นศาลนั้น หากสภาทนายรับไว้ช่วยเหลือแล้ว จะใช้งบประมาณที่รัฐบาลส่งมาสนับสนุนเป็นรายปี ที่สภาทนายนำมาใช้ในการช่วยเหลือด้านทนายความอาสาและเรื่องอื่นๆ
ส่วนค่าใช้จ่ายทางคดีทั้งสามชั้นศาลนั้น หากสภาทนายรับไว้ช่วยเหลือแล้ว จะใช้งบประมาณที่รัฐบาลส่งมาสนับสนุนเป็นรายปี ที่สภาทนายนำมาใช้ในการช่วยเหลือด้านทนายความอาสาและเรื่องอื่นๆ