xs
xsm
sm
md
lg

กรมการขนส่งฯ สั่งรถตู้ปรับเบาะเหลือ 13 ที่นั่งภายใน 10 เม.ย.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ชี้แจงถึงประกาศกรมการขนส่งทางบกเรื่องการจัดวางที่นั่งรถตู้โดยสารสาธารณะ 13 ที่นั่ง ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเษกษา และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม ที่ผ่านมา ว่า เป็นมาตรการเพิ่มความปลอดภัยในรถโดยสารสาธารณะ พ.ศ.2560 ตามคำสั่งมาตรา 44  ของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 15/2560 เรื่องมาตรการเพิ่มความปลอดภัยในรถโดยสารสาธารณะ ลงวันที่ 21 มีนาคม 2560

เบื้องต้นรัฐบาลให้นโยบายดำเนินการกับรถตู้โดยสารประจำทางรวม 15,808 คันก่อน ประกอบด้วย เส้นทางหมวด 2 (กรุงเทพฯ-ต่างจังหวัด ไม่เกิน300 กิโลเมตร)  ประมาณ 5 พันกว่าคัน หมวด 1 (กรุงเทพฯ-ปริมณฑล) 5 พันกว่าคัน หมวด 3 (ภูมิภาคระหว่างจังหวัด) 3 พันกว่าคัน และ4 (วิ่งภายในจังหวัดและในซอย ไม่ใช่เส้นทางหลัก) กรุงเทพฯ 126 คัน และต่างจังหวัด 1,900  คัน ต้องปรับที่นั่งออกให้เหลือ 13 ที่นั่ง ภายในวันที่ 10 เมษายนนี้ ก่อนเทศกาลสงกรานต์ เพื่อคุมเข้มความปลอดภัยลดอุบัติเหตุ อีกทั้งสอดคล้องกับนโยบายกระทรวงคมนาคมที่ต้องการให้ยอดผู้เสียชีวิตจากรถสาธารณะเป็นศูนย์ ซึ่งมีมาตรการเอาผิดกับผู้ฝ่าฝืน 2 ส่วนคือ จับปรับไม่เกิน 5 พันบาท และมาตรการด้านทะเบียน โดยกรมการขนส่งทางบกจะผ่อนผันการบังคับใช้ก่อน คือเน้นปรับในอัตราน้อยไม่เกิน 500 บาท เพื่อเตือนผู้ประกอบการและสร้างความเข้าใจ ส่วนมาตรการทางทะเบียนจากเบาไม่หนัก เช่น ไม่ออกใบเวลาเดินรถ ระงับหรือพักใช้ใบอนุญาตขับรถ และใบอนุญาตประกอบการขนส่งได้ไม่เกิน 6 เดือน จะผ่อนผันการดำเนินการไปก่อน โดยเริ่มประมาณเดือนมิถุนายน ที่ให้รถตู้นำรถมาตรวจสภาพ

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวด้วยว่า ในการปรับที่นั่งผู้ประกอบการทำได้เองด้วยการขันน็อต รื้อเบาะออก หรือไปที่ร้านประดับยนต์ หรือตามอู่ ค่าใช้จ่ายน้อยหรืออาจไม่เสีย เพราะถอดง่าย ยกเว้นเป็นเบาะคู่ ต้องถอดออ แล้วนำมาติดตั้งใหม่เป็นที่นั่งเดี่ยว มีค่าใช้จ่ายค่าใส่เบาะใหม่  ล่าสุดได้เรียกประชุมบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) และวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ซึ่งขนส่งจังหวัดทั่วประเทศแจ้งเตือนผู้ประกอบการทั้ง 1.5 หมื่นคัน ให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 10 เมษายน ตามนโยบายรัฐบาล

ทั้งนี้ หลักการในการจัดวางที่นั่งผู้โดยสารคร่าวๆ คือรถที่จดทะเบียนใหม่ ให้จัดวางได้ไม่เกิน 13 ที่นั่ง โดยที่นั่งแถวหลังสุดต้องมีช่องทางเดินขนาดความกว้างไม่น้อยกว่า 20 เซนติเมตร เพื่อให้ผู้โดยสารใช้เป็นทางออกฉุกเฉินด้านท้าย และเปิดออกจากตัวรถได้ในกรณีที่มีเหตุจำเป็น หรือเกิดอุบัติเหตุ ส่วนรถที่จดทะเบียนก่อนวันประกาศนี้มีผลบังคับใช้ ที่มีที่นั่งผู้โดยสารเกิน 13 ที่นั่ง ให้จัดวางที่นั่งผู้โดยสารได้ไม่เกิน 13 ที่นั่งเช่นกัน เน้นที่นั่งแถวสุดท้ายด้านซ้ายมือ ต้องมีที่นั่งเดียวเหมือนแถวอื่นๆ เนื่องจากปัจจุบันแถวสุดท้ายจะวางที่นั่งเต็มพื้นที่ ทำให้ไม่มีทางออกประตูฉุกเฉินหลังรถ
กำลังโหลดความคิดเห็น