xs
xsm
sm
md
lg

ปชช.ทั่วสารทิศเดินทางมากราบสักการะพระบรมศพอย่างต่อเนื่อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บรรยากาศการไว้อาลัยและกราบสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 154 ตลอดทั้งวันยังคงมีประชาชนจากทั่วสารทิศทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเดินทางมากราบสักการะพระบรมศพอย่างต่อเนื่อง ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น โดยส่วนใหญ่มากันเป็นครอบครัวและหมู่คณะ ที่ใช้โอกาสช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ และช่วงปิดภาคเรียนพาลูกหลานมาสักการะพระบรมศพในหลวง ร.9 ให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต
เพราะเป็นช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนว่างจากการสอนนักศึกษาประกอบกับลูกๆ ก็หยุดเรียน จึงทำให้พ่อพิมพ์ และแม่พิพม์แห่งชาติอย่างครอบครัว ประสงค์จันทร์ นำโดยนายปิยะและ นางณิชา 2 อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย จ.สงขลา ได้พาลูกๆทั้ง 3 คน อย่าง น.ส.ณัฐณิชา ด.ช.ณัฐนันท์ ด.ญ.ณัฐชนา เดินทางมาสักกราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยเดินทางถึงท้องสนามหลวง เมื่อเวลา 08.00 น.

โดย นางณิชา กล่าวภายหลังที่สักการะพระบรมศพเสร็จแล้วว่า สำหรับตนมาเป็นครั้งที่ 2 แล้ว โดยก่อนหน้านี้ได้พาคุณพ่อคุณแม่มา และครั้งนี้เห็นว่าเป็นช่วงปิดภาคเรียน จึงพาลูกๆมากราบสักการะพระบรมศพในหลวง ร.9 ให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต ทุกครั้งที่มาล้วนเต็มไปด้วยความรู้สึกปลาบปลื้มใจ เป็นสุขใจ ที่มีโอกาสได้มาทำหน้าที่ลูกที่ดีเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อถวายพ่อหลวงของปวงชนชาวไทย ที่ผ่านมาพระองค์ทรงทุ่มเทพระวรกายอย่างหนัก เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่อาณาประชาราษฎ์ ทุกพื้นที่ไม่ว่าจทุรกันดารเพียงใดพระองค์ก็มิเคยย่อท้อ และด้วยความเพียรพระวิริยะอุตสาหะของพระองค์นี้เองจึงเป็นแนวทางให้ตน และครอบครัวยึดถือไปดำรงชีวิตอย่างมั่นคง พร้อมส่งต่อความพอเพียงอันเป็นปรัชญาที่มั่นคงให้กับลูกๆด้วย

ด้าน น.ส.สุดารัตน์ ชื่นชม อายุ 18 ปี ชาวจังหวัดแพร่ นักศึกษาสาขาวิชาสถาปัยกรรมศาสตร์ วิทยาลัยเทคนิคแพร่ กล่าวหลังจากเข้ากราบสักการะพระบรมศพว่า วันนี้อากาศดีมากและรอไม่นาน ตัวเองพร้อมญาติๆ รวม 5 คนออกเดินทางมาจากบ้านเกิดโดยรถไฟตั้งแต่ 1 ทุ่มมาถึงสนามหลวงจุดพักรอในเวลาตี 5 และได้เข้ากราบเวลาประมาณ 6 โมงเช้า ทุกคนตั้งใจมากประกอบกับเป็นช่วงปิดเทอมของหลานๆ จึงมีความสะดวก ถือว่าเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะได้ใกล้ชิดกับในหลวง ร.9 แม้จะเป็นครั้งที่รู้สึกใจหาย เพราะไม่อยากให้มีวันนี้ แต่ตื้นตันใจที่ได้มา

ส่วน น.ส.ทัศนีย์ สหวัฒน์ อายุ 51 ปี กล่าวว่า ตนรักและเทิดทูนในหลวงรัชกาลที่ 9 มาก เกิดมาก็เห็นพระองค์ทรงงานตลอดเวลา ตนไปเรียนที่ประเทศอังกฤษและสหรัฐอเมริกาก็ไม่เคยเห็นพระมหากษัตริย์หรือผู้นำของเขาเป็นแบบนี้ แล้วคนในประเทศเขาก็ไม่ได้ตื่นเต้นเวลาที่เห็นข่าวของผู้นำ ต่างจากประเทศไทยที่จะตื่นเต้นทุกครั้งเวลาที่มีข่าวของพระมหากษัตริย์ อย่างกรณีที่นายโรนัลด์ เรแกน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 40 เสียชีวิต คนบ้านเขาก็ยังใช้ชีวิตตามปกติและไม่ค่อยสนใจมากเท่าไร

น.ส.ทัศนีย์ กล่าวต่อว่า ตอนที่ตนอายุประมาณ 6-7 ปี และอาศัยอยู่ที่ จ.นนทบุรี เคยมีโอกาสรับเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 9 และพระบรมวงศานุวงศ์ เมื่อโตมาได้เข้าทำงานที่สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย และเป็นผู้ประสานงานนักเรียนทุนเล่าเรียนหลวงพระราชทานจากในหลวงรัชกาลที่ 9 ให้นักเรียนไทย และต่างชาติที่มีผลการเรียนเฉลี่ย 3.5 ขึ้นไป ในสาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์และการจัดการเทคโนโลยี ตนประทับใจทุกสิ่งที่พระองค์ทรงทำให้คนไทย เนื่องในวันจักรี ตนก็รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ ถ้าไม่มีพระมหากษัตริย์ ประเทศเราคงไม่มีอย่างทุกวันนี้ คนไทยจึงรักและผูกพันกับสถาบันพระมหากษัตริย์มาก

น.ส.ทัศนีย์ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยมาเข้าคิวกราบสักการะพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 ทั้งหมด 7 ครั้ง และได้มาร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลถวายพระบรมศพ 2 ครั้ง ตนรู้สึกปลาบปลื้มใจมากที่ได้มา ทุกวันนี้ก็ปฏิบัติตนตามรอยพระองค์ถ้าเราเป็นคนดีและช่วยเหลือสังคม ก็จะเกิดสิ่งดีๆ ต่อตัวเราและประเทศชาติ เพราะเมื่อเราทำดีกับคนอื่น คนอื่นเห็นก็จะได้ทำตาม และช่วยเหลือคนอื่นต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น