พล.ต.ท.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.สุวิระ ทรงเมตตา ที่ปรึกษาสัญญาบัตร 10 เปิดเผยภายหลังการประชุมมาตรการดูแลประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2560 ผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์กับหน่วยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.ท.วิทยา เปิดเผยว่า การเล่นน้ำในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะห้ามเล่นน้ำบนท้ายรถกระบะขณะรถกำลังเคลื่อนที่โดยเด็ดขาด แต่สามารถขึ้นเล่นน้ำบนรถกระบะที่จอดหยุดนิ่ง อยู่บริเวณที่จัดไว้สำหรับเล่นน้ำได้ หากฝ่าฝืนถือมีโทษใช้รถผิดประเภท และขับรถโดยอาจเป็นอันตรายกับผู้อื่น
สำหรับผู้ขับขี่ที่ใช้รถผิดประเภท หรือการบรรทุกคนบริเวณท้ายกระบะ พล.ต.อ.สุวิระ ยืนยันว่า ไม่สามารถทำได้ แต่เจ้าหน้าที่จะมีการผ่อนปรนการบรรทุกผู้โดยสารภายในแค็บของรถเป็นกรณีไป หากพิจารณาว่ามีความจำเป็น เดินทางไม่ไกล ที่นั่งกว้าง มีความปลอดภัย เจ้าหน้าที่จะใช้การตักเตือน แต่หากพบว่าใช้งานในเชิงรับจ้างขนส่งคน ก็จะดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมขอเชิญชวนให้ประชาชนหันมาใช้รถโดยสารสาธารณะในการเดินทางกลับภูมิลำเนาแทน เพื่อความปลอดภัย
ส่วนการจำหน่ายสุราในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะบังคับใช้กฎหมาย ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกฮอล์ให้เยาวชน อายุต่ำกว่า 18 ปี ห้ามจำหน่ายสุรานอกเวลาที่กำหนด ห้ามดื่มและจำหน่ายสุราในที่สาธารณะในช่วงเทศกาลโดยเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ขณะที่มาตรการบังคับใช้กฎหมายด้านการจราจรนั้น ได้กำชับหน่วยงานในสังกัด ให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการไม่สวมหมวกนิรภัยและไม่คาดเข็ดขัดนิรภัยขณะขับขี่ รวมถึงไม่พกใบอนุญาตขับขี่ เมาแล้วขับ และ ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนดด้วย ซึ่งหากพบผู้กระทำความผิด ทั้งรถส่วนบุคคลและรถของหน่วยงานราชการ ให้ดำเนินการจับกุมทันที รวมทั้งได้สั่งการให้ผู้บังคับบัญชา ลงตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยตัวเอง ไม่มีให้การกระทำที่มิชอบเกิดขึ้น หากพบผู้ฝ่าฝืนไม่คาดเข็มขัดถือมีโทษปรับตามกฎหมายไม่เกิน 500 บาท แต่เจ้าหน้าที่จะเริ่มต้นปรับเบื้องต้น 100 - 200 บาทก่อน เพื่อให้ประชาชนได้ปรับตัวกับข้อบังคับใช้ดังกล่าว
ในส่วนรถโดยสารสาธารณะ หากผู้ขับขี่ได้บอกกล่าวให้คาดเข็มขัดนิรภัยแล้ว แต่ผู้โดยสารไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ขับขี่ ก็ถือเป็นเจตนาของผู้โดยสารในการละเมิดกฎหมาย พร้อมขอความร่วมมือผู้รถใช้ถนนในการคาดเข็มขัดนิรภัย และสวมหมวกนิรภัยขณะขับขี่หรือซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ เพื่อให้เป็นมาตรฐานสากล ลดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน อย่างไรก็ตาม มาตรการคาดเข็มขัดนิรภัยขณะโดยสารรถสาธารณะ ไม่ได้มีการบังคับครอบคลุมถึงรถประจำทางหรือรถเมล์ที่วิ่งภายในจังหวัด แต่จะบังคับใช้ในรถโดยสารระหว่างจังหวัดเท่านั้น
สำหรับผู้ขับขี่ที่ใช้รถผิดประเภท หรือการบรรทุกคนบริเวณท้ายกระบะ พล.ต.อ.สุวิระ ยืนยันว่า ไม่สามารถทำได้ แต่เจ้าหน้าที่จะมีการผ่อนปรนการบรรทุกผู้โดยสารภายในแค็บของรถเป็นกรณีไป หากพิจารณาว่ามีความจำเป็น เดินทางไม่ไกล ที่นั่งกว้าง มีความปลอดภัย เจ้าหน้าที่จะใช้การตักเตือน แต่หากพบว่าใช้งานในเชิงรับจ้างขนส่งคน ก็จะดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมขอเชิญชวนให้ประชาชนหันมาใช้รถโดยสารสาธารณะในการเดินทางกลับภูมิลำเนาแทน เพื่อความปลอดภัย
ส่วนการจำหน่ายสุราในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะบังคับใช้กฎหมาย ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกฮอล์ให้เยาวชน อายุต่ำกว่า 18 ปี ห้ามจำหน่ายสุรานอกเวลาที่กำหนด ห้ามดื่มและจำหน่ายสุราในที่สาธารณะในช่วงเทศกาลโดยเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ขณะที่มาตรการบังคับใช้กฎหมายด้านการจราจรนั้น ได้กำชับหน่วยงานในสังกัด ให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการไม่สวมหมวกนิรภัยและไม่คาดเข็ดขัดนิรภัยขณะขับขี่ รวมถึงไม่พกใบอนุญาตขับขี่ เมาแล้วขับ และ ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนดด้วย ซึ่งหากพบผู้กระทำความผิด ทั้งรถส่วนบุคคลและรถของหน่วยงานราชการ ให้ดำเนินการจับกุมทันที รวมทั้งได้สั่งการให้ผู้บังคับบัญชา ลงตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยตัวเอง ไม่มีให้การกระทำที่มิชอบเกิดขึ้น หากพบผู้ฝ่าฝืนไม่คาดเข็มขัดถือมีโทษปรับตามกฎหมายไม่เกิน 500 บาท แต่เจ้าหน้าที่จะเริ่มต้นปรับเบื้องต้น 100 - 200 บาทก่อน เพื่อให้ประชาชนได้ปรับตัวกับข้อบังคับใช้ดังกล่าว
ในส่วนรถโดยสารสาธารณะ หากผู้ขับขี่ได้บอกกล่าวให้คาดเข็มขัดนิรภัยแล้ว แต่ผู้โดยสารไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ขับขี่ ก็ถือเป็นเจตนาของผู้โดยสารในการละเมิดกฎหมาย พร้อมขอความร่วมมือผู้รถใช้ถนนในการคาดเข็มขัดนิรภัย และสวมหมวกนิรภัยขณะขับขี่หรือซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ เพื่อให้เป็นมาตรฐานสากล ลดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน อย่างไรก็ตาม มาตรการคาดเข็มขัดนิรภัยขณะโดยสารรถสาธารณะ ไม่ได้มีการบังคับครอบคลุมถึงรถประจำทางหรือรถเมล์ที่วิ่งภายในจังหวัด แต่จะบังคับใช้ในรถโดยสารระหว่างจังหวัดเท่านั้น