เวลา 11.00 น.วันนี้ (31 มี.ค.) กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่อง "พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทย และฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม ถึงวันที่ 4 เมษายน 2560) ฉบับที่ 5 ระบุว่า ในช่วงวันที่ 31 มีนาคม - 4 เมษายนนี้ ประเทศไทยมีสภาวะอากาศแปรปรวนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก จะทำให้มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ และอากาศจะคลายความร้อนลง ซึ่งสภาวะอากาศดังกล่าวจะเกิดขึ้นตามภาคต่างๆ ดังนี้
ในวันที่ 31 มีนาคม จะเกิดพายุฤดูร้อนใน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณ จ.เลย อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคตะวันออก บริเวณ จ.นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี และตราด
ส่วนในช่วงวันที่ 1-2 เมษายน จะเกิดพายุฤดูร้อนเพิ่มมากขึ้นครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือ บริเวณ จ.พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณ จ.เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์ ส่วนภาคกลาง บริเวณ จ.นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา ชัยนาท อุทัยธานี สุพรรบุรี กาญจณบุรี ราชบุรี รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขณะที่ภาคตะวันออก บริเวณ จ.ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ในขณะที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และระวังอันตรายที่เกิดจากลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก ไว้ด้วย
นอกจากนี้ ในช่วงวันที่ 1-4 เมษายน ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงอีกระลอกได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศจีนตอนใต้แล้ว และคาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ในคืนนี้ (31 มี.ค.) ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น ส่วนลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังปานกลางในช่วงวันที่ 1-4 เมษายน จะทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง
ในวันที่ 31 มีนาคม จะเกิดพายุฤดูร้อนใน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณ จ.เลย อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคตะวันออก บริเวณ จ.นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี และตราด
ส่วนในช่วงวันที่ 1-2 เมษายน จะเกิดพายุฤดูร้อนเพิ่มมากขึ้นครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือ บริเวณ จ.พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณ จ.เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์ ส่วนภาคกลาง บริเวณ จ.นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา ชัยนาท อุทัยธานี สุพรรบุรี กาญจณบุรี ราชบุรี รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขณะที่ภาคตะวันออก บริเวณ จ.ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ในขณะที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และระวังอันตรายที่เกิดจากลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก ไว้ด้วย
นอกจากนี้ ในช่วงวันที่ 1-4 เมษายน ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงอีกระลอกได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศจีนตอนใต้แล้ว และคาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ในคืนนี้ (31 มี.ค.) ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น ส่วนลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังปานกลางในช่วงวันที่ 1-4 เมษายน จะทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง