นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แถลงสถานการณ์ท่องเที่ยวไทยในรอบ 6 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 - 27 มีนาคม 2560 สร้างรายได้รวมจากการท่องเที่ยว 1.33 ล้านล้านบาท แยกเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 0.86 ล้านล้านบาท นักท่องเที่ยวไทย 0.47 ล้านล้านบาท และยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ อันดับ 1 ยังเป็นจีน อันดับ 2 รัสเซีย อันดับ 3 มาเลเซีย อันดับ 4 อังกฤษ อันดับ 5 อเมริกา ซึ่งการท่องเที่ยวฝั่งอันดามันยังมาเป็นอันดับ 1 อันดับ 2 อารยธรรมล้านนา และ 3 ภาคตะวันออก โดยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา มิติการท่องเที่ยวเรื่องกีฬา หรือ Sports Tourism ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น เป็นผลจากการจัดงาน Air Race1 การแข่งขัน Word Jet Ski การแข่งขันวิ่งมาราธอนและไตรกีฬา สามารถสร้างรายได้และทำให้นักท่องเที่ยวพักนานขึ้น จากกิจกรรมหลากหลายประเภท ล่าสุดผลักดันนโยบายท่องเที่ยวเชิงกีฬาเข้าสู่คณะรัฐมนตรี โดยขออนุมัติให้ไทยเป็นเจ้าภาพการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก หรือโมโตจีพี ระยะเวลา 3 ปี ระหว่างปี 2561-2563 โดยเลือกสนามช้างบุรีรัมย์อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต โดยรัฐบาลอนุมัติงบประมาณในการขอเป็นเจ้าภาพ โมโตจีพีปีละ 100 ล้านบาท รวมระยะเวลา 3 ปี รวม 300 ล้านบาท
ทั้งนี้ นางกอบกาญจน์ ยืนยันว่า ที่เลือกใช้สนามดังกล่าวเพราะเป็นสนามเดียวที่มาตรฐานและดีที่สุด อีกทั้งยังเป็นการเปิดตัวการท่องเที่ยวภาคอีสานมีการถ่ายทอด สดไปกว่า 227 ประเทศทั่วโลก ซึ่งจะมีผู้ชมมากกว่า 500-600 ล้านคน ยืนยันว่าคุ้มค่าแน่นอน ตลอดการจัดงานในช่วง 3-5 วัน คาดว่าจะมีผู้เข้าชม ไม่ต่ำกว่าแสนคน มาจากต่างประเทศ กว่า 4 หมื่นคนและในประเทศ กว่า 6 หมื่นคน สร้างรายได้ราว 1.8 พันล้านบาท คนที่ได้รับประโยชน์คือผู้ประกอบการ ชุมชนท้องถิ่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นอกจากนี้ ในช่วงเดือนเมษยนปีหน้า ยังได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีให้ประเทศไทยเสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม Sport Accord Convention 2018 ที่กรุงเทพมหานคร ที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวหลายด้าน และเม็ดเงินจากผู้เข้าชมกีฬาและคนในอุตสาหกรรมกีฬาที่จะเดินทางมาร่วมประชุม โดยจะเชิญประธานโอลิมปิก ประธานสหพันธ์กีฬาทั่วโลกมาร่วมประชุม
ทั้งนี้ นางกอบกาญจน์ ยืนยันว่า ที่เลือกใช้สนามดังกล่าวเพราะเป็นสนามเดียวที่มาตรฐานและดีที่สุด อีกทั้งยังเป็นการเปิดตัวการท่องเที่ยวภาคอีสานมีการถ่ายทอด สดไปกว่า 227 ประเทศทั่วโลก ซึ่งจะมีผู้ชมมากกว่า 500-600 ล้านคน ยืนยันว่าคุ้มค่าแน่นอน ตลอดการจัดงานในช่วง 3-5 วัน คาดว่าจะมีผู้เข้าชม ไม่ต่ำกว่าแสนคน มาจากต่างประเทศ กว่า 4 หมื่นคนและในประเทศ กว่า 6 หมื่นคน สร้างรายได้ราว 1.8 พันล้านบาท คนที่ได้รับประโยชน์คือผู้ประกอบการ ชุมชนท้องถิ่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นอกจากนี้ ในช่วงเดือนเมษยนปีหน้า ยังได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีให้ประเทศไทยเสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม Sport Accord Convention 2018 ที่กรุงเทพมหานคร ที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวหลายด้าน และเม็ดเงินจากผู้เข้าชมกีฬาและคนในอุตสาหกรรมกีฬาที่จะเดินทางมาร่วมประชุม โดยจะเชิญประธานโอลิมปิก ประธานสหพันธ์กีฬาทั่วโลกมาร่วมประชุม