นางสาริณี อังศุสิงห์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) เปิดเผยถึงการบริหารจัดการสภาพจราจรทางอากาศในปัจจุบันที่เริ่มมีความแออัด ว่า หากจะทำให้ความสามารถในการรองรับเที่ยวบินได้เพิ่มมากขึ้น ต้องมีการบริหารจัดการทั้งภาคพื้น และภาคอากาศ โดยเฉพาะภาคอากาศ ถือเป็นส่วนที่สำคัญ ซึ่งขณะนี้มีผู้ใช้น่านฟ้า 2 ส่วน คือ ภาคความมั่นคง กองทัพอากาศ และ บวท. แบ่งกันคนละครึ่ง บางครั้ง บวท. ก็ขอใช้พื้นที่ของกองทัพอากาศบางส่วนเป็นการชั่วคราว เมื่อใช้เสร็จก็คืนกลับไปให้ โดยการเปิดพื้นที่ให้แต่ละครั้งช่วยในการบริหารจัดการสภาพจราจรอากาศได้มาก แต่ขณะนี้เรื่องดังกล่าวยังไม่มีกฎหมายรองรับอย่างเป็นทางการ จึงกลัวว่าจะไม่ยั่งยืนและไม่เป็นระบบ ดังนั้น จึงมีแนวคิดที่จะหารือกับกองทัพอากาศในเรื่องดังกล่าว เพื่อให้การบริหารน่านฟ้าเป็นแบบยืดหยุ่นได้
นางสาริณี เปิดเผยว่า ขณะนี้ บวท. ได้ส่งเรื่องการเสนอให้มีคณะกรรมการเฉพาะกิจขึ้นมาดูแลเรื่องการออกกฎหมายไปยังกระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อร่วมกันจัดทำกฎหมายบริหารห้วงอากาศ แต่จากการประชุมร่วมกับกระทรวงคมนาคม เห็นว่าเวลานี้มีคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ซึ่งมีองค์ประกอบของผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งสองกระทรวงครบอยู่แล้ว อีกทั้งร่าง พ.ร.บ.การบินพลเรือน ฉบับใหม่ ก็มีการพูดถึงการจัดการห้วงอากาศ จึงอยากให้ลองปฏิบัติตามกฎหมายที่มีอยู่ไปก่อน ยังไม่ต้องส่งเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรี และหากทำแล้วเดินหน้าไปได้จะได้เดินต่อไป แต่หากทำแล้วไม่ได้ผลก็จะกลับมาพิจารณาข้อเสนอของ บวท.
นางสาริณี เปิดเผยว่า ขณะนี้ บวท. ได้ส่งเรื่องการเสนอให้มีคณะกรรมการเฉพาะกิจขึ้นมาดูแลเรื่องการออกกฎหมายไปยังกระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อร่วมกันจัดทำกฎหมายบริหารห้วงอากาศ แต่จากการประชุมร่วมกับกระทรวงคมนาคม เห็นว่าเวลานี้มีคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ซึ่งมีองค์ประกอบของผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งสองกระทรวงครบอยู่แล้ว อีกทั้งร่าง พ.ร.บ.การบินพลเรือน ฉบับใหม่ ก็มีการพูดถึงการจัดการห้วงอากาศ จึงอยากให้ลองปฏิบัติตามกฎหมายที่มีอยู่ไปก่อน ยังไม่ต้องส่งเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรี และหากทำแล้วเดินหน้าไปได้จะได้เดินต่อไป แต่หากทำแล้วไม่ได้ผลก็จะกลับมาพิจารณาข้อเสนอของ บวท.