ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ระมัดระวังการลงคะแนนเสียง ร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม ในวาระ 2 และ 3 ที่จะมีการประชุมลงมติในวันที่ 30 มีนาคมนี้ เพราะร่างดังกล่าวมีการยัดไส้มาตรา 10/1 ให้จัดตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ เป็นผู้ถือสิทธิ์ในทรัพยากรปิโตรเลียมทุกชนิดของประเทศ โดยระยะแรกให้กรมพลังงานทหารเป็นหน่วยงานบริหารบรรษัทน้ำมันแห่งชาติไปก่อน ซึ่งจะทำให้กิจการน้ำมันของประเทศถอยหลังเหมือนในอดีตที่มีน้ำมันสามทหารที่มีส่วนการตลาดน้อย และถูกครอบงำโดยบริษัทน้ำมันแห่งชาติ แต่ตอนหลังมีการตั้งการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย หรือ ปตท.มาบริหารกิจการน้ำมันแทน และบริหารพัฒนาแหล่งพลังงานใหม่ ตลอดจนสำรวจและผลิตทั้งในและต่างประเทศจนนำความเจริญด้านเศรษฐกิจมาสู่ประเทศ
ทั้งนี้ยืนยันการจัดตั้งบรรษัทไม่ใช่แนวคิดของกระทรวงพลังงานและรัฐบาล แต่เป็นความพยายามของคณะกรรมาธิการที่เป็นอดีตนายทหารถึง 6 คน ได้เสนอให้ตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติจนบรรจุไว้ในชั้นกรรมาธิการ และเสนอกลับคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึง 2 ครั้ง ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเพราะ ครม. เกรงใจใครบางคนหรือบุคคลบางกลุ่มซึ่งมีอิทธิพลในคณะรัฐมนตรี จนทำให้มีมติเห็นชอบตามที่เสนอ พร้อมกันนี้ ยืนยันการเรียกร้องให้ สนช. ตัดมาตรานี้ออกไม่ใช่เพราะเสียประโยชน์จากการตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติแต่เป็นการเรียกร้องผลประโยชน์เพื่อคนไทยทั้งประเทศ ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้ สนช.ตัดมาตรานี้ออก เพราะจะเป็นการทำลายระบบเศรษฐกิจจนเป็นวิกฤต และเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
ทั้งนี้ยืนยันการจัดตั้งบรรษัทไม่ใช่แนวคิดของกระทรวงพลังงานและรัฐบาล แต่เป็นความพยายามของคณะกรรมาธิการที่เป็นอดีตนายทหารถึง 6 คน ได้เสนอให้ตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติจนบรรจุไว้ในชั้นกรรมาธิการ และเสนอกลับคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึง 2 ครั้ง ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเพราะ ครม. เกรงใจใครบางคนหรือบุคคลบางกลุ่มซึ่งมีอิทธิพลในคณะรัฐมนตรี จนทำให้มีมติเห็นชอบตามที่เสนอ พร้อมกันนี้ ยืนยันการเรียกร้องให้ สนช. ตัดมาตรานี้ออกไม่ใช่เพราะเสียประโยชน์จากการตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติแต่เป็นการเรียกร้องผลประโยชน์เพื่อคนไทยทั้งประเทศ ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้ สนช.ตัดมาตรานี้ออก เพราะจะเป็นการทำลายระบบเศรษฐกิจจนเป็นวิกฤต และเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ