การประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หรือ สปท.วันนี้ (27 มี.ค.) มี ร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ ประธาน สปท.เป็นประธานการประชุมโดยมีการพิจารณาแนวทางการดำเนินงานขับเคลื่อนวาระการปฏิรูปที่สำคัญและเร่งด่วน 27 วาระ ในปี 2560 กลุ่มเศรษฐกิจอนาคต 2 วาระ ได้แก่การท่องเที่ยวที่ยั่งยืน และ เศรษฐกิจสร้างสรรค์
โดย นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ กล่าวเสนอรายงาน โดยมีข้อเสนอการปฏิรูปและพัฒนาเร่งด่วนคือ ปฏิรูปโครงสร้างองค์กรด้านการท่องเที่ยวทั้งระบบและบูรณาการการทำงานของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ปรับโครงสร้างคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ททช.) ในส่วนของผู้ทรงคุณวุฒิ ให้มีภาคเอกชนเพิ่มขึ้นทั้งในด้านสาขาอาชีพและพื้นที่ โดยให้ครอบคลุมสถาบันการศึกษา การจัดตั้งสำนักนโยบาย และขับเคลื่อนการท่องเที่ยว ภายใต้การกำกับของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อขับเคลื่อนงานในฐานะสำนักงานเลขานุการของ ททช. ตั้งคณะอนุกรรมการเร่งรัดพัฒนาการท่องเที่ยวบูรณาการและขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเพื่อร่วมกับภาคเอกชน
นอกจากนี้ ยังเสนอตั้งคณะกรรมการบูรณาการการท่องเที่ยวจังหวัด เพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวร่วมกับภาคเอกชน การปรับโครงสร้างให้องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) และสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) มาอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ขณะเดียวกันยังได้เสนอการปฏิรูประบบที่พักแรม และข้อมูลคนเข้าเมือง โดยจัดทำการจัดเก็บข้อมูลการลงทะเบียนที่พักแรม และข้อมูลคนเข้าเมืองให้เป็นฐานข้อมูลเดียวกัน หรือ Single (Platform) โดยอ้างอิงข้อมูลจาก e-Passport เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบและใช้ข้อมูล การบังคับใช้กฎหมาย โดยกวดขันการแจ้งทะเบียนการเข้าพักชาวต่างชาติ ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 38 การให้ลงทะเบียนเข้าพักสำหรับชาวต่างชาติด้วยพาสปอร์ตในที่พักทุกประเภท โดยบันทึกข้อมูลผ่านระบบออนไลน์และเก็บสำเนาพาสปอร์ต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้อง
ทั้งนี้ ยังเสนอให้ยกเลิกการใช้บัตร ตม.6 ในการผ่านเข้าออกประเทศ ทั้งคนไทยและต่างชาติ โดยใช้ข้อมูลจากอีพาสปอร์ตและข้อมูลการลงทะเบียนเข้าพักแบบออนไลน์แทน โดยเริ่มยกเลิกการใช้บัตร ตม. 6 สำหรับคนไทยได้ทันที และยกเลิกการใช้บัตร ตม. 6 สำหรับคนต่างชาติหลังทดลองระบบจนมั่นใจในความพร้อม
ด้านการปฏิรูประบบที่พักแรมเสนอให้ทบทวนการจัดประเภทที่พักแรม และกำหนดมาตรฐานข้อบังคับให้ครอบคลุมที่พักทุกประเภทเพื่อยกระดับมาตรฐานและความปลอดภัย โดยปรับปรุงกฎหมายเพื่อควบคุมที่พักแรมที่ยังไม่มีกฎหมายรองรับ และใช้มาตรฐานของกฎกระทรวงกำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. 2559 เป็นมาตรฐานของธุรกิจโรงแรม
ขณะเดียวกันยังเสนอเพิ่มบทลงโทษและบังคับใช้กฎหมาย เพื่อควบคุมผู้ประกอบการที่ผิดกฎหมายทั้งการประกอบธุรกิจตามใบอนุญาต และการโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้มีบทลงโทษที่รุนแรงขึ้น การส่งเสริมการมีส่วนร่วมด้านการท่องเที่ยวของคนในท้องถิ่น การบริหารขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยว บริหารการจัดเก็บรายได้ และการกระจายงบประมาณให้เหมาะสมสอดคล้องกับภารกิจ การรักษามาตรฐานการจัดการแหล่งท่องเที่ยวของไทยให้อยู่ในระดับสากล
โดย นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ กล่าวเสนอรายงาน โดยมีข้อเสนอการปฏิรูปและพัฒนาเร่งด่วนคือ ปฏิรูปโครงสร้างองค์กรด้านการท่องเที่ยวทั้งระบบและบูรณาการการทำงานของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ปรับโครงสร้างคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ททช.) ในส่วนของผู้ทรงคุณวุฒิ ให้มีภาคเอกชนเพิ่มขึ้นทั้งในด้านสาขาอาชีพและพื้นที่ โดยให้ครอบคลุมสถาบันการศึกษา การจัดตั้งสำนักนโยบาย และขับเคลื่อนการท่องเที่ยว ภายใต้การกำกับของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อขับเคลื่อนงานในฐานะสำนักงานเลขานุการของ ททช. ตั้งคณะอนุกรรมการเร่งรัดพัฒนาการท่องเที่ยวบูรณาการและขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเพื่อร่วมกับภาคเอกชน
นอกจากนี้ ยังเสนอตั้งคณะกรรมการบูรณาการการท่องเที่ยวจังหวัด เพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวร่วมกับภาคเอกชน การปรับโครงสร้างให้องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) และสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) มาอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ขณะเดียวกันยังได้เสนอการปฏิรูประบบที่พักแรม และข้อมูลคนเข้าเมือง โดยจัดทำการจัดเก็บข้อมูลการลงทะเบียนที่พักแรม และข้อมูลคนเข้าเมืองให้เป็นฐานข้อมูลเดียวกัน หรือ Single (Platform) โดยอ้างอิงข้อมูลจาก e-Passport เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบและใช้ข้อมูล การบังคับใช้กฎหมาย โดยกวดขันการแจ้งทะเบียนการเข้าพักชาวต่างชาติ ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 38 การให้ลงทะเบียนเข้าพักสำหรับชาวต่างชาติด้วยพาสปอร์ตในที่พักทุกประเภท โดยบันทึกข้อมูลผ่านระบบออนไลน์และเก็บสำเนาพาสปอร์ต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้อง
ทั้งนี้ ยังเสนอให้ยกเลิกการใช้บัตร ตม.6 ในการผ่านเข้าออกประเทศ ทั้งคนไทยและต่างชาติ โดยใช้ข้อมูลจากอีพาสปอร์ตและข้อมูลการลงทะเบียนเข้าพักแบบออนไลน์แทน โดยเริ่มยกเลิกการใช้บัตร ตม. 6 สำหรับคนไทยได้ทันที และยกเลิกการใช้บัตร ตม. 6 สำหรับคนต่างชาติหลังทดลองระบบจนมั่นใจในความพร้อม
ด้านการปฏิรูประบบที่พักแรมเสนอให้ทบทวนการจัดประเภทที่พักแรม และกำหนดมาตรฐานข้อบังคับให้ครอบคลุมที่พักทุกประเภทเพื่อยกระดับมาตรฐานและความปลอดภัย โดยปรับปรุงกฎหมายเพื่อควบคุมที่พักแรมที่ยังไม่มีกฎหมายรองรับ และใช้มาตรฐานของกฎกระทรวงกำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. 2559 เป็นมาตรฐานของธุรกิจโรงแรม
ขณะเดียวกันยังเสนอเพิ่มบทลงโทษและบังคับใช้กฎหมาย เพื่อควบคุมผู้ประกอบการที่ผิดกฎหมายทั้งการประกอบธุรกิจตามใบอนุญาต และการโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้มีบทลงโทษที่รุนแรงขึ้น การส่งเสริมการมีส่วนร่วมด้านการท่องเที่ยวของคนในท้องถิ่น การบริหารขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยว บริหารการจัดเก็บรายได้ และการกระจายงบประมาณให้เหมาะสมสอดคล้องกับภารกิจ การรักษามาตรฐานการจัดการแหล่งท่องเที่ยวของไทยให้อยู่ในระดับสากล