นายสัญชัย เกตุวรชัย อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำ ในเขื่อนขนาดใหญ่และขนาดกลาง ทั้งประเทศว่า ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 21 มี.ค.) มีปริมาณน้ำในอ่างฯ รวมกันทั้งสิ้น 44,891 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 60 ของความจุอ่างฯรวมกันทั้งหมด และมีปริมาณน้ำใช้การได้ 21,071 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 41 มากกว่าปี 2559 รวม 7,740 ล้านลูกบาศก์เมตร (ปี 2559 มีปริมาณน้ำ 37,151 ล้าน ลบ.ม.)
ส่วนสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา กรมชลประทานได้วางแผนจัดสรรน้ำจาก 4 เขื่อนหลัก ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยฯ และเขื่อนป่าสักฯ เพื่อสนับสนุนการใช้น้ำในช่วงฤดูแล้งของลุ่มน้ำเจ้าพระยา (1 พ.ย. 59 – 30 เม.ย.60) รวมทั้งสิ้น 5,950 ล้านลูกบาศก์เมตร ผลการจัดสรรน้ำฤดูแล้งในลุ่มน้ำเจ้าพระยา จนถึงขณะนี้มีการใช้น้ำไปแล้ว 5,283 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 89 ของแผนฯ ปัจจุบันทั้ง 4 เขื่อนหลัก มีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน 5,841 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 33 ของปริมาณน้ำใช้การ ซึ่งกรมชลประทาน คาดการณ์ว่า ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2560 ปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนหลัก จะอยู่ในเกณฑ์ไม่ต่ำกว่าแผนที่วางไว้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนเมษายน 2560 ซึ่งส่วนใหญ่เกษตรกรจะเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวรอบที่ 2 (นาปรัง) แล้ว กรมชลประทานจะเริ่มลดการระบายน้ำจาก 4 เขื่อนหลัก เพื่อสำรองปริมาณน้ำไว้ในเขื่อนให้มากที่สุด จึงขอให้เกษตรกรในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา พักการทำนารอบที่ 3(นาปรังรอบที่ 2) เนื่องจากไม่มีน้ำสนับสนุน พร้อมทั้งขอให้ทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่เพียงพอใช้ไปจนถึงต้นฤดูฝนหน้าด้วย
ส่วนสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา กรมชลประทานได้วางแผนจัดสรรน้ำจาก 4 เขื่อนหลัก ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยฯ และเขื่อนป่าสักฯ เพื่อสนับสนุนการใช้น้ำในช่วงฤดูแล้งของลุ่มน้ำเจ้าพระยา (1 พ.ย. 59 – 30 เม.ย.60) รวมทั้งสิ้น 5,950 ล้านลูกบาศก์เมตร ผลการจัดสรรน้ำฤดูแล้งในลุ่มน้ำเจ้าพระยา จนถึงขณะนี้มีการใช้น้ำไปแล้ว 5,283 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 89 ของแผนฯ ปัจจุบันทั้ง 4 เขื่อนหลัก มีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน 5,841 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 33 ของปริมาณน้ำใช้การ ซึ่งกรมชลประทาน คาดการณ์ว่า ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2560 ปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนหลัก จะอยู่ในเกณฑ์ไม่ต่ำกว่าแผนที่วางไว้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนเมษายน 2560 ซึ่งส่วนใหญ่เกษตรกรจะเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวรอบที่ 2 (นาปรัง) แล้ว กรมชลประทานจะเริ่มลดการระบายน้ำจาก 4 เขื่อนหลัก เพื่อสำรองปริมาณน้ำไว้ในเขื่อนให้มากที่สุด จึงขอให้เกษตรกรในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา พักการทำนารอบที่ 3(นาปรังรอบที่ 2) เนื่องจากไม่มีน้ำสนับสนุน พร้อมทั้งขอให้ทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่เพียงพอใช้ไปจนถึงต้นฤดูฝนหน้าด้วย