ศาลพิพากษาจำคุก จำเลยคดีแชร์ลูกโซ่ยูฟัน 22 คน ตั้งแต่ 12,255 ปี ถึง 12,267 ปี สั่งปรับบริษัทยูเทรดดิ้งจำกัด จำเลยร่วม 1,225 ล้านบาท ยกฟ้องจำเลยอีก 21 คน
คดีนี้อัยการยื่นฟ้อง นายศิริโชค สิริวรรณภา อดีตสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา นายนที ธีระโรจนพงษ์ กับพวกรวม 43 คน รวม 7 สำนวนคดี ในคดีแชร์ลูกโซ่บริษัทยูฟัน สโตร์ จำกัด พร้อมขอให้จำเลยร่วมกันคืนเงินชดใช้แก่ผู้เสียหาย 2,451 คน รวมเป็นเงินกว่า 351 ล้านบาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ควบคุมตัวจำเลยมาจากเรือนจำและทัณฑสถาน ซึ่งมีจำเลยได้ประกันเพียง 1 คน และเดินทางมาศาล ซึ่งจำเลยทั้ง 43 คน ให้การปฏิเสธ
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จากพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบ พบว่า ใช้การซื้อขายสินค้าออนไลน์อำพรางการกระทำที่แท้จริง คือการขายหน่วยการลงทุนยูโทเคน ที่ไม่ได้รับการรับรองตามกฎหมาย โดยมีพฤติการณ์นำเงินหมุนเวียนจากสมาชิกเก่ามาจ่ายให้สมาชิกใหม่ แต่ที่ผู้ร่วมลงทุนบางส่วนระบุไม่รู้สึกว่าตัวเองได้รับความเสียหาย เห็นว่าผู้เสียหายกลุ่มนี้เป็นกลุ่มแม่ข่ายที่ได้รับค่าตอบแทนจากการชักชวนสมาชิกจำนวนมาก หลักฐานของจำเลยทั้ง 43 คน ไม่สามารถหักล้างพยานโจทก์ได้ จำเลยมีความผิดตามฟ้อง ให้ลงโทษทุกกรรมเรียงกระทงความผิด
พิพากษา จำคุกจำเลยรวม 22 คน ตั้งแต่ 12,255 ปี ถึง 12,267 ปี แต่ตามกฎหมายให้จำคุกในอัตราไม่เกินคนละ 50 ปี และ 20 ปี รวมทั้งให้ปรับบริษัท ยูเทรดดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคล เป็นเงิน 1,225,700,000 บาท โดยให้ร่วมกันคืนเงินที่กู้ยืมและฉ้อโกงไปรวม 356,211,209 บาท แก่ผู้เสียหาย 2,451 คน พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ส่วนจำเลยที่เหลืออีก 21 คน พยานหลักฐานยังไม่เพียงพอ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย ซึ่งหนึ่งในจำนวนนี้คือนายศิริโชค สิริวรรณภา อดีตสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งเป็นจำเลยที่ 41 พิพากษายกฟ้อง
ภายหลังศาลมีคำพิพากษา พล.ต.อ. สุวิระ ทรงเมตตา ที่ปรึกษาสัญญาบัตร 10 ระบุว่า เคารพในคำตัดสินของศาลที่ลงโทษผู้กระทำผิด โดยชดใช้เงินให้ผู้เสียหายพร้อมดอกเบี้ย และหากมีผู้เสียหายที่ยังไม่แจ้งความ ก็สามารถเข้าแจ้งความได้ เนื่องจากคดียังไม่หมดอายุความ
คดีนี้อัยการยื่นฟ้อง นายศิริโชค สิริวรรณภา อดีตสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา นายนที ธีระโรจนพงษ์ กับพวกรวม 43 คน รวม 7 สำนวนคดี ในคดีแชร์ลูกโซ่บริษัทยูฟัน สโตร์ จำกัด พร้อมขอให้จำเลยร่วมกันคืนเงินชดใช้แก่ผู้เสียหาย 2,451 คน รวมเป็นเงินกว่า 351 ล้านบาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ควบคุมตัวจำเลยมาจากเรือนจำและทัณฑสถาน ซึ่งมีจำเลยได้ประกันเพียง 1 คน และเดินทางมาศาล ซึ่งจำเลยทั้ง 43 คน ให้การปฏิเสธ
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จากพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบ พบว่า ใช้การซื้อขายสินค้าออนไลน์อำพรางการกระทำที่แท้จริง คือการขายหน่วยการลงทุนยูโทเคน ที่ไม่ได้รับการรับรองตามกฎหมาย โดยมีพฤติการณ์นำเงินหมุนเวียนจากสมาชิกเก่ามาจ่ายให้สมาชิกใหม่ แต่ที่ผู้ร่วมลงทุนบางส่วนระบุไม่รู้สึกว่าตัวเองได้รับความเสียหาย เห็นว่าผู้เสียหายกลุ่มนี้เป็นกลุ่มแม่ข่ายที่ได้รับค่าตอบแทนจากการชักชวนสมาชิกจำนวนมาก หลักฐานของจำเลยทั้ง 43 คน ไม่สามารถหักล้างพยานโจทก์ได้ จำเลยมีความผิดตามฟ้อง ให้ลงโทษทุกกรรมเรียงกระทงความผิด
พิพากษา จำคุกจำเลยรวม 22 คน ตั้งแต่ 12,255 ปี ถึง 12,267 ปี แต่ตามกฎหมายให้จำคุกในอัตราไม่เกินคนละ 50 ปี และ 20 ปี รวมทั้งให้ปรับบริษัท ยูเทรดดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคล เป็นเงิน 1,225,700,000 บาท โดยให้ร่วมกันคืนเงินที่กู้ยืมและฉ้อโกงไปรวม 356,211,209 บาท แก่ผู้เสียหาย 2,451 คน พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ส่วนจำเลยที่เหลืออีก 21 คน พยานหลักฐานยังไม่เพียงพอ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย ซึ่งหนึ่งในจำนวนนี้คือนายศิริโชค สิริวรรณภา อดีตสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งเป็นจำเลยที่ 41 พิพากษายกฟ้อง
ภายหลังศาลมีคำพิพากษา พล.ต.อ. สุวิระ ทรงเมตตา ที่ปรึกษาสัญญาบัตร 10 ระบุว่า เคารพในคำตัดสินของศาลที่ลงโทษผู้กระทำผิด โดยชดใช้เงินให้ผู้เสียหายพร้อมดอกเบี้ย และหากมีผู้เสียหายที่ยังไม่แจ้งความ ก็สามารถเข้าแจ้งความได้ เนื่องจากคดียังไม่หมดอายุความ