ศาลนัดไต่สวนคำร้องขอยื่นฟ้องคดีแบบกลุ่ม ในคดีหมายเลขดำ พ.246/2560 ที่ นายสุพรธรรม มงคลสวัสดิ์ อายุ 50 ปี ผู้พิการนั่งรถวีลแชร์ ซึ่งเป็นครูและเลขานุการโรงเรียนวัดมหาไถ่ เป็นผู้แทนกลุ่มคนพิการภาคีเครือข่ายขนส่งมวลชนทุกคนต้องขึ้นได้ รวม 98 คน เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง กรุงเทพมหานครเป็นจำเลย เรื่องละเมิด เรียกค่าเสียหาย 361,000 บาทต่อคน ซึ่งค่าเสียหายคำนวณจากการมีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง การไม่ได้รับความสะดวกต่างๆ ที่คำนวณเป็นเงินวันละ 1,000 บาท นับตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค.59 ที่ครบกำหนดต้องดำเนินการตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ที่สั่งให้กรุงเทพมหานครจัดสร้างลิฟต์โดยสารอำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการ ในสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสให้ครบทั้ง 23 สถานีโดย นายสุพรธรรม ได้ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่ง เมื่อวันที่ 20 ม.ค.60 ที่ผ่านมา
โดย นายสนธิพงศ์ มงคลสวัสดิ์ ทนายความกลุ่มคนพิการ กล่าวภายหลังการไต่สวนว่า วันนี้นำผู้พิการเข้าเบิกความ 5 ปาก ขณะที่กรุงเทพมหานครแถลงต่อศาลว่า คดีนี้ไม่ได้อยู่ในเขตอำนาจศาลแพ่ง แต่เป็นอำนาจของศาลปกครอง ตนจึงค้านว่า เหตุที่มาฟ้องศาลแพ่ง เนื่องจากกรุงเทพมหานครไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลแพ่ง ที่ให้จัดสร้างลิฟต์โดยสารทางขึ้นลงสถานีรถไฟฟ้าให้ครบตามคำพิพากษา โดยศาลเห็นว่าประเด็นเรื่องเขตอำนาจศาลควรส่งให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้พิจารณา และนัดฟังคำสั่งทั้งสองประเด็นคือ เรื่องเขตอำนาจศาล และการฟ้องคดีแบบกลุ่มได้หรือไม่ ในวันที่ 18 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.
โดย นายสนธิพงศ์ มงคลสวัสดิ์ ทนายความกลุ่มคนพิการ กล่าวภายหลังการไต่สวนว่า วันนี้นำผู้พิการเข้าเบิกความ 5 ปาก ขณะที่กรุงเทพมหานครแถลงต่อศาลว่า คดีนี้ไม่ได้อยู่ในเขตอำนาจศาลแพ่ง แต่เป็นอำนาจของศาลปกครอง ตนจึงค้านว่า เหตุที่มาฟ้องศาลแพ่ง เนื่องจากกรุงเทพมหานครไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลแพ่ง ที่ให้จัดสร้างลิฟต์โดยสารทางขึ้นลงสถานีรถไฟฟ้าให้ครบตามคำพิพากษา โดยศาลเห็นว่าประเด็นเรื่องเขตอำนาจศาลควรส่งให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้พิจารณา และนัดฟังคำสั่งทั้งสองประเด็นคือ เรื่องเขตอำนาจศาล และการฟ้องคดีแบบกลุ่มได้หรือไม่ ในวันที่ 18 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.