พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงกรณีที่ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำวินิจฉัยคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร ระบุการขยายเวลาการออกหมายเรียกไม่สามารถทำได้ จะส่งผลต่อการเรียกเก็บภาษี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นคนละกรณีกัน ส่วนจะถูกต้อง และสามารถทำได้หรือไม่นั้นต้องเป็นไปตามกระบวนยุติธรรม โดยส่วนตัวให้ความเป็นธรรมอยู่แล้ว แต่หากไม่ชัดเจนและยังคลุมเคลือ หรือหากรัฐบาลละเว้นจะผิดตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ที่ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ดังนั้นรัฐบาลนี้ได้ระมัดระวังอย่างเต็มที่เหมือนกับคดีอื่นๆ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการตรวจสอบภาษีนักการเมืองในอดีต และปัจจุบันที่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นว่า รัฐบาลนี้ก็ถูกตรวจสอบเช่นกัน โดยมีการแจ้งบัญชีทรัพย์สินก่อนเข้ามาทำหน้าที่ และหากพ้นจากตำแหน่งก็ต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สินอีก 2 ปี ตามระเบียบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
ทั้งนี้ไม่ใช่ทุกคนที่ถูกตรวจสอบ แต่จะตรวจสอบผู้ที่มีรายได้ไม่ปกติ ซึ่งเป็นไปตามอำนาจในการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ภายใน 5 ปี จึงขออย่ากล่าวหาว่าจะเป็นการรังแกใครหรือเหมารวมใครทั้งสิ้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการตรวจสอบภาษีนักการเมืองในอดีต และปัจจุบันที่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นว่า รัฐบาลนี้ก็ถูกตรวจสอบเช่นกัน โดยมีการแจ้งบัญชีทรัพย์สินก่อนเข้ามาทำหน้าที่ และหากพ้นจากตำแหน่งก็ต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สินอีก 2 ปี ตามระเบียบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
ทั้งนี้ไม่ใช่ทุกคนที่ถูกตรวจสอบ แต่จะตรวจสอบผู้ที่มีรายได้ไม่ปกติ ซึ่งเป็นไปตามอำนาจในการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ภายใน 5 ปี จึงขออย่ากล่าวหาว่าจะเป็นการรังแกใครหรือเหมารวมใครทั้งสิ้น