พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง กล่าวว่า รองนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำในที่ประชุมคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ที่กระทรวงกลาโหม ว่า กระบวนการปรองดองเป็นของประชาชน ซึ่งจะต้องดำเนินการตามศาสตร์พระราชา บนพื้นฐานหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและการมีส่วนร่วม จนถึงขณะนี้มีพรรคการเมืองที่ตอบรับการเข้ามาให้ความคิดเห็นแล้ว 53 พรรค 2 กลุ่มการเมือง มีพรรคการเมืองที่ยังไม่ได้ตอบรับเข้ามาจำนวน 13 พรรค ยังไม่พร้อมที่จะเข้าร่วมอีก 4 พรรค และพรรคการเมืองที่ส่งเฉพาะเอกสารจำนวน 7 พรรคการเมือง ซึ่งพรรคการเมืองที่เหลือนั้น ได้ประสานกับทางคณะกรรมการการเลือกตั้งในการช่วยประสานอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนการรับฟังความคิดเห็นในแต่ละพื้นที่นั้น คาดว่าจะครบ 76 จังหวัด ในวันที่ 23 มีนาคมนี้ ซึ่งความคิดเห็นที่ได้รับมาส่วนใหญ่ เป็นเรื่องของปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศ ปัญหาความเหลื่อมล้ำ และปัญหาของแต่ละพื้นที่ ที่ต้องการให้รัฐบาลเข้าไปแก้ไข อาทิ การให้บริการของภาครัฐ เป็นต้น ซึ่งก็ได้มีการแก้ไขทันที
ขณะที่การรวบรวมข้อมูลในการจัดทำความเห็นร่วม เพื่อจัดทำสัญญาประชาคมความเห็นร่วม สร้างความสามัคคีปรองดองนั้น คณะกรรมการอีกหนึ่งชุด ได้เริ่มดำเนินการแล้ว
ทั้งนี้ คาดว่าในวันที่ 5 เมษายนนี้ การรับฟังความคิดเห็นจากส่วนกลางจะเสร็จสิ้นลง จากนั้นจะนำข้อมูลทั้งจากส่วนกลางและภูมิภาค มาสรุปและจัดทำความเห็นร่วม ให้สมบูรณ์ที่สุดและเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย จากนั้นจะมีการประชุมกลุ่มย่อย เพื่อสรุปประเด็นความเห็นร่วมอีกครั้ง ทั้งในส่วนกลางและระดับพื้นที่ แบ่งเป็นส่วนกลาง 1 ครั้ง ในวันที่ 19 เมษายน และระดับพื้นที่ 4 ครั้ง กองทัพภาคละ 1 ครั้ง ระหว่างวันที่ 20 - 30 เมษายน โดยจะเชิญตัวแทนจากทุกภาคส่วนต่าง ๆ เข้ามาร่วมพิจารณา ทั้งนี้ ขอให้ทุกฝ่าย ยาเชื่อมโยงการสร้างบรรยากาศความปรองดอง กับการบังคับใช้กฎหมาย เพราะถือว่าเป็นคนละเรื่องกัน
สำหรับพรรคการเมืองที่ยังไม่ได้เข้ามาให้ความเห็นนั้น ทางคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็น ยังคงพร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็น เมื่อทางพรรคมีความพร้อม
ส่วนการรับฟังความคิดเห็นในแต่ละพื้นที่นั้น คาดว่าจะครบ 76 จังหวัด ในวันที่ 23 มีนาคมนี้ ซึ่งความคิดเห็นที่ได้รับมาส่วนใหญ่ เป็นเรื่องของปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศ ปัญหาความเหลื่อมล้ำ และปัญหาของแต่ละพื้นที่ ที่ต้องการให้รัฐบาลเข้าไปแก้ไข อาทิ การให้บริการของภาครัฐ เป็นต้น ซึ่งก็ได้มีการแก้ไขทันที
ขณะที่การรวบรวมข้อมูลในการจัดทำความเห็นร่วม เพื่อจัดทำสัญญาประชาคมความเห็นร่วม สร้างความสามัคคีปรองดองนั้น คณะกรรมการอีกหนึ่งชุด ได้เริ่มดำเนินการแล้ว
ทั้งนี้ คาดว่าในวันที่ 5 เมษายนนี้ การรับฟังความคิดเห็นจากส่วนกลางจะเสร็จสิ้นลง จากนั้นจะนำข้อมูลทั้งจากส่วนกลางและภูมิภาค มาสรุปและจัดทำความเห็นร่วม ให้สมบูรณ์ที่สุดและเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย จากนั้นจะมีการประชุมกลุ่มย่อย เพื่อสรุปประเด็นความเห็นร่วมอีกครั้ง ทั้งในส่วนกลางและระดับพื้นที่ แบ่งเป็นส่วนกลาง 1 ครั้ง ในวันที่ 19 เมษายน และระดับพื้นที่ 4 ครั้ง กองทัพภาคละ 1 ครั้ง ระหว่างวันที่ 20 - 30 เมษายน โดยจะเชิญตัวแทนจากทุกภาคส่วนต่าง ๆ เข้ามาร่วมพิจารณา ทั้งนี้ ขอให้ทุกฝ่าย ยาเชื่อมโยงการสร้างบรรยากาศความปรองดอง กับการบังคับใช้กฎหมาย เพราะถือว่าเป็นคนละเรื่องกัน
สำหรับพรรคการเมืองที่ยังไม่ได้เข้ามาให้ความเห็นนั้น ทางคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็น ยังคงพร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็น เมื่อทางพรรคมีความพร้อม