พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก กองทัพบก ชี้แจงถึงกรณีในโลกออนไลน์มีการตั้งข้อสังเกตต่อการที่เจ้าหน้าที่ทหารจากชุดปฏิบัติการ กองพันทหารปืนใหญ่ที่2 กรมทหารปืนใหญ่ที่2รักษาพระองค์ (ชป.ป.2 พัน 2 รอ.) ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ร่วมกับชุดทำงานพิเศษ นำโดย พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บุกเข้าตรวจค้น บริษัท ไทยแม็กซ์กรุ๊ป จำกัด เลขที่ 1 / 1 หมู่ 6 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี และบ้านปูน 2 ชั้น ซึ่งเป็นบ้านพักของเครือข่ายนายวุฒิพงษ์ กชธรรมคุณ (โกตี๋) แกนนำเสื้อแดงปทุมธานี และพบอาวุธสงครามเครื่องกระสุน และวัตถุระเบิดจำนวนมาก เมื่อวานนี้ (18 มี.ค.) ว่า อาวุธที่นำมาแสดงมีจำนวนมากและหลากหลายชนิดจนไม่น่าเชื่อว่า โกตี๋จะครอบครองอาวุธเหล่านั้น อาวุธและวัตถุระเบิดที่เห็นถูกพบในสถานที่เป้าหมายในลักษณะหลบซ่อนเอาไว้อย่างมิดชิดในพื้นที่ส่วนบุคคล แบบชนิดที่บุคคลภายนอกไม่สามารถจะเข้าถึงได้ ซึ่งการตรวจค้นจนพบในครั้งนี้อาศัยกระบวนการสืบสวนที่เป็นระบบ ควบคู่กับงานด้านการข่าวที่มีประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ซึ่งกรณีที่เป้าหมายใดๆ มีความชัดเจนในแง่ของพยานหลักฐานแล้วเจ้าหน้าที่ก็จะเข้าดำเนินการ ที่สำคัญการดำเนินการในครั้งนี้มีสื่อมวลชนเข้าร่วมเป็นผู้สังเกตการณ์ ประกอบกับเจ้าหน้าที่ได้บันทึกภาพขณะเข้าดำเนินการไว้อย่างละเอียด เพื่อเป็นเครื่องยืนยันป้องกันการที่อาจผู้ไม่หวังดีจะนำไปสร้างเป็นประเด็นทำลายความน่าเชื่อเจ้าหน้าที่
ส่วนกรณีที่ตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีการเชื่อมโยงกรณีนี้กับปัญหาวัดพระธรรมกาย เพื่อให้ความชอบธรรมแก่เจ้าหน้าที่จัดการกับวัดพระธรรมกายอีกรอบนั้น โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า ปัจจุบันเจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการเกี่ยวกับงานการรักษากฎหมาย งานดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่วัดพระธรรมกาย และโดยรอบได้อยู่แล้ว ข้อสังเกตดังกล่าวจึงยังดูไม่สมเหตุสมผลจริง
ขณะที่การเชื่อมโยงบุคคลในทางคดีจะเกี่ยวข้องกับบุคคลใดคนไหนบ้าง คงต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังอยู่ในระหว่างดำเนินการเพื่อสอบสวนบุคคลต่างๆ อยู่ ตามขั้นตอนลักษณะการสอบสวนคดีความที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง
ส่วนกรณีที่ตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีการเชื่อมโยงกรณีนี้กับปัญหาวัดพระธรรมกาย เพื่อให้ความชอบธรรมแก่เจ้าหน้าที่จัดการกับวัดพระธรรมกายอีกรอบนั้น โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า ปัจจุบันเจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการเกี่ยวกับงานการรักษากฎหมาย งานดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่วัดพระธรรมกาย และโดยรอบได้อยู่แล้ว ข้อสังเกตดังกล่าวจึงยังดูไม่สมเหตุสมผลจริง
ขณะที่การเชื่อมโยงบุคคลในทางคดีจะเกี่ยวข้องกับบุคคลใดคนไหนบ้าง คงต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังอยู่ในระหว่างดำเนินการเพื่อสอบสวนบุคคลต่างๆ อยู่ ตามขั้นตอนลักษณะการสอบสวนคดีความที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง