นาวาอากาศเอก นิทัศน์ ยูประพัฒน์ ผู้บังคับการกองบิน 23 อุดรธานี กล่าวว่า กองทัพอากาศได้จัดส่งหน่วยบินปฏิบัติการฝนหลวง ฝูงบิน 461 กองบิน 46 พิษณุโลก ปฏิบัติภารกิจทำฝนหลวง ตามโครงการในพระราชดำริ ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทั้งนี้ เพื่อหวังยับยั้งลูกเห็บที่จะเกิดขึ้นในช่วงนี้ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้พื้นที่เกษตรกรรม รวมถึงเพื่อเติมน้ำในเขื่อนต่างๆ บรรเทาภัยแล้งให้กับประชาชน โดยเริ่มปฏิบัติการในวันนี้ ไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม โดยมีกองบิน 23 คอยให้การสนับสนุน เมื่อได้รับการร้องขอ และอำนวยความสะดวก สถานที่ปฏิบัติงาน ที่พัก และยานพาหนะแก่หน่วยบิน และเจ้าหน้าที่กรมฝนหลวงและการบินเกษตร
นอกจากนี้ หน่วยบินปฏิบัติการฝนหลวง ฝูงบิน 501 กองบิน 5 ประจวบคีรีขันธ์ ยังได้ส่งเครื่องบินโจมตีและธุรการแบบที่ 2 (Peacemaker) จำนวน 5 ลำ พร้อมเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ เดินทางมาปฏิบัติงาน ณ ที่ตั้งกองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค และเกษตรกรรม ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ซึ่งหลังเสร็จสิ้นภารกิจ หน่วยบินปฏิบัติการฝนหลวง กองทัพอากาศ จะย้ายฐานปฏิบัติการไปยังกองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา ในวันที่ 1 เมษายน เพื่อปฏิบัติภารกิจทำฝนหลวงบรรเทาภัยแล้งให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างต่อไป
นอกจากนี้ หน่วยบินปฏิบัติการฝนหลวง ฝูงบิน 501 กองบิน 5 ประจวบคีรีขันธ์ ยังได้ส่งเครื่องบินโจมตีและธุรการแบบที่ 2 (Peacemaker) จำนวน 5 ลำ พร้อมเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ เดินทางมาปฏิบัติงาน ณ ที่ตั้งกองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค และเกษตรกรรม ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ซึ่งหลังเสร็จสิ้นภารกิจ หน่วยบินปฏิบัติการฝนหลวง กองทัพอากาศ จะย้ายฐานปฏิบัติการไปยังกองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา ในวันที่ 1 เมษายน เพื่อปฏิบัติภารกิจทำฝนหลวงบรรเทาภัยแล้งให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างต่อไป