นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า 12-18 มี.ค.60 เป็นสัปดาห์โรคต้อหินโลก โดยสมาคมโรคต้อหินโลก และสมาคมผู้ป่วยโรคต้อหินโลก คาดปี 63 ทั่วโลกจะมีผู้ป่วย 76 ล้านคน ร้อยละ 10 จะตาบอด โดยโรคนี้เป็นสาเหตุตาบอดสูงเป็นอันดับ 2 รองจากโรคต้อกระจก พบตามอายุที่เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่ 40 ปีขึ้นไปร้อยละ 4 และเพิ่มเป็น 6 เมื่ออายุมากกว่า 60 ปี คาดคนไทยเป็นโรคต้อหินประมาณ 1.2 ล้านคน
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้โรงพยาบาลที่พร้อมทั้งส่วนกลางและภูมิภาค จัดกิจกรรมรณรงค์สัปดาห์โรคต้อหินโลก เชิญชวนผู้มีความเสี่ยงคือ อายุ 40 ปีขึ้นไป คนในครอบครัวเป็น หรือเป็นโรคที่ทำให้เลือดไปเลี้ยงขั้วประสาทตาลดลง เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ ความดันสูง สายตาสั้น เคยผ่าตัดตาหรือเคยตาอักเสบ มีประวัติกระแทกหรือเกิดอุบัติเหตุที่ตา กินหรือหยอดตาด้วยสเตียรอยด์ ไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจความผิดปกติ และรักษาตั้งแต่แรก
นพ.ปานเนตร ปางพุฒิพงศ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ และจักษุแพทย์ กล่าวว่า อาการต้อหินมี 2 ลักษณะ คือ ชนิดเฉียบพลัน จะเกิดขึ้นรวดเร็วใน 1-2 วัน หากไม่รีบรักษา จะทำให้ประสาทตาเสีย สูญเสียมองเห็น และชนิดไม่เฉียบพลัน ซึ่งพบมากที่สุดจะเกิดขึ้นช้าๆ การมองเห็นจะแคบลงเรื่อยๆ จนเห็นแค่รอบดวงตา จะเดินชนขอบประตู ชนเสา ไม่มั่นใจเดินขึ้นบันได การรักษามี 3 วิธีคือ 1.ใช้ยากินและหยอด 2.ใช้แสงเลเซอร์ 3.ผ่าตัด แต่ไม่สามารถกลับมามองเห็นดังเดิมได้
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้โรงพยาบาลที่พร้อมทั้งส่วนกลางและภูมิภาค จัดกิจกรรมรณรงค์สัปดาห์โรคต้อหินโลก เชิญชวนผู้มีความเสี่ยงคือ อายุ 40 ปีขึ้นไป คนในครอบครัวเป็น หรือเป็นโรคที่ทำให้เลือดไปเลี้ยงขั้วประสาทตาลดลง เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ ความดันสูง สายตาสั้น เคยผ่าตัดตาหรือเคยตาอักเสบ มีประวัติกระแทกหรือเกิดอุบัติเหตุที่ตา กินหรือหยอดตาด้วยสเตียรอยด์ ไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจความผิดปกติ และรักษาตั้งแต่แรก
นพ.ปานเนตร ปางพุฒิพงศ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ และจักษุแพทย์ กล่าวว่า อาการต้อหินมี 2 ลักษณะ คือ ชนิดเฉียบพลัน จะเกิดขึ้นรวดเร็วใน 1-2 วัน หากไม่รีบรักษา จะทำให้ประสาทตาเสีย สูญเสียมองเห็น และชนิดไม่เฉียบพลัน ซึ่งพบมากที่สุดจะเกิดขึ้นช้าๆ การมองเห็นจะแคบลงเรื่อยๆ จนเห็นแค่รอบดวงตา จะเดินชนขอบประตู ชนเสา ไม่มั่นใจเดินขึ้นบันได การรักษามี 3 วิธีคือ 1.ใช้ยากินและหยอด 2.ใช้แสงเลเซอร์ 3.ผ่าตัด แต่ไม่สามารถกลับมามองเห็นดังเดิมได้