บรรยากาศการไว้อาลัยและกราบสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 133 ตลอดทั้งวัน ยังมีพสกนิกรทุกหมู่เหล่าจากทั่วสารทิศของประเทศไทย เดินทางมารอต่อแถวเข้าถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้อย่างไม่ขาดสาย ตลอดทั้งวันตั้งแต่ช่วงเช้ามืด
นางสุดชาฎา ศรประสิททธิ์ อายุ 54 ปี ชาวสงขลา อาชีพรับราชการ กล่าวภายหลังสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชว่า เดินทางจากจังหวัดสงขลา โดยสายการบินเที่ยวแรกของวันนี้ และมาถึงสนามหลวงตอน 09.00 น. นับเป็นครั้งที่ 3 แล้วที่ได้มาสักการะพระบรมศพ หากแต่ความรู้สึกก็ไม่ต่างจากครั้งแรก คือเต็มไปด้วยความปลาบปลื้มใจภูมิใจ และได้อธิษฐานเบื้องหน้าพระบรมโกศว่า ขอให้ได้เกิดมาเป็นข้ารองพระบาทของในหลวงรัชกาลที่ 9 ทุกชาติไป และตนในฐานะที่เป็นข้าราชการ ซึ่งเป็นข้าของพระราชามีหน้าที่รับใช้ถวายงานดูแลทุกข์สุขแทนพระราชา ดังนั้นการยึดหลักทำงานเพื่อความสุขของประชาชนเป็นหลัก โดยยึดผลประโยชน์ของประชาชนโดยรวมเป็นที่ตั้ง และในฐานะที่เป็นข้าราชการต้องทำงานด้วยความซื่อสัตย์ ยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนเป็นหลักไม่ทุจริตคอรัปชั่น และจากนี้ไปถึงแม้จะไม่มีในหลวงรัชกาลที่ 9 อีกต่อไปแล้ว แต่ก็จะยึดคำสอนเรื่องความพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต ต้องใช้ชีวิตอย่างพอมีพอกิน ใช้ชีวิตให้มีความสุขในสิ่งที่ตัวเองมี
น.ส.ศิราณี ศรีสมพร อายุ 30 ปี ชาว ต.ในเมือง อ.เมือง จ.หนองคาย กล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า ตนเดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศออสเตรเลีย ได้ 4 ปีแล้ว พอทราบข่าวว่าในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต พวกเราที่ไปเรียนอยู่ที่นั่น และคนไทยที่ไปทำงานอยู่ที่ออสเตรเลียรู้สึกเสียใจร้องไห้หนักมากทุกคนแทบไม่เชื่อว่าพระองค์ท่านจะเสด็จสวรรคตเร็ว คนไทยที่นั้นได้ไปรวมตัวกันที่สวนสาธารณะในเมืองซิดนีย์ เยอะมากเพื่อจุดเทียนถวายอาลัย และไปร่วมทำบุญตักบาตรมีพระสงฆ์มาสวด ล่าสุดครบ 100 วันก็ได้ร่วมกันทำบุญอุทิศกุศลถวาย มีการทำลิบบิ้นดำแจกกัน ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาก็ไม่มีงานเลี้ยงสังสรรค์เพราะทุกคนรู้สึกเศร้าอยู่ ทุกวันนี้คนไทยที่ออสเตรเลียก็ยังใส่ชุดไว้ทุกข์ด้วย
น.ส.ศิราณี กล่าวต่อว่า ตั้งใจอยากจะกลับมากราบตั้งแต่พระองค์ท่านเสด็จสวรรคตใหม่ ๆแล้วแต่ติดเรียน วันนี้พอลงเครื่องที่สุวรรณภูมิตี 3 ก็เดินทางมาบ้านญาติในกรุงเทพฯ แล้วชวนกันมาเข้าคิวที่สนามหลวงเลย ได้เข้ากราบประมาณ 07.00 น. รู้สึกดีใจมากที่ได้เดินทางมากราบพระองค์ท่านแล้ว วันนี้ก็ส่งภาพบรรยกาศไปให้เพื่อนๆที่ออสเตรเลียดูซึ่งพวกเขาก็อยากมาด้วยมากแต่ติดคอร์สเรียน จึงไม่สามารถเดินทางกลับมาพร้อมกันได้ ขณะเข้ากราบก็อธิษฐานให้พระองค์เสด็จสู่สรวงสวรรค์
ขณะที่ นายสวรรค์ คล่องแคล้ว อายุ 54 ปี อาชีพช่างตัดผม ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาพร้อมกับภรรยา ลูกสาวและหลานสาว โดยเช่าแท็กซี่มาจากชลบุรี เพราะกลัวว่าขับรถมาแล้วไม่มีที่จอด โดยเดินทางมาตั้งแต่เวลา 03.00 น.กว่า และมาถึงท้องสนามหลวงเวลา 04.00 น.กว่า ได้เข้ากราบสักการะพระบรมศพเสร็จประมาณ 07.00 น. ประทับใจเจ้าหน้าที่ที่จัดระบบ และให้บริการได้ดีมาก ขณะขึ้นไปกราบก็รู้สึกตื้นตันอธิษฐานขอให้พระองค์ท่านเสด็จสู่สวรรค์ชั้นสูงสุด ไม่ต้องห่วงพสกนิกร
นางสุดชาฎา ศรประสิททธิ์ อายุ 54 ปี ชาวสงขลา อาชีพรับราชการ กล่าวภายหลังสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชว่า เดินทางจากจังหวัดสงขลา โดยสายการบินเที่ยวแรกของวันนี้ และมาถึงสนามหลวงตอน 09.00 น. นับเป็นครั้งที่ 3 แล้วที่ได้มาสักการะพระบรมศพ หากแต่ความรู้สึกก็ไม่ต่างจากครั้งแรก คือเต็มไปด้วยความปลาบปลื้มใจภูมิใจ และได้อธิษฐานเบื้องหน้าพระบรมโกศว่า ขอให้ได้เกิดมาเป็นข้ารองพระบาทของในหลวงรัชกาลที่ 9 ทุกชาติไป และตนในฐานะที่เป็นข้าราชการ ซึ่งเป็นข้าของพระราชามีหน้าที่รับใช้ถวายงานดูแลทุกข์สุขแทนพระราชา ดังนั้นการยึดหลักทำงานเพื่อความสุขของประชาชนเป็นหลัก โดยยึดผลประโยชน์ของประชาชนโดยรวมเป็นที่ตั้ง และในฐานะที่เป็นข้าราชการต้องทำงานด้วยความซื่อสัตย์ ยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนเป็นหลักไม่ทุจริตคอรัปชั่น และจากนี้ไปถึงแม้จะไม่มีในหลวงรัชกาลที่ 9 อีกต่อไปแล้ว แต่ก็จะยึดคำสอนเรื่องความพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต ต้องใช้ชีวิตอย่างพอมีพอกิน ใช้ชีวิตให้มีความสุขในสิ่งที่ตัวเองมี
น.ส.ศิราณี ศรีสมพร อายุ 30 ปี ชาว ต.ในเมือง อ.เมือง จ.หนองคาย กล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า ตนเดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศออสเตรเลีย ได้ 4 ปีแล้ว พอทราบข่าวว่าในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต พวกเราที่ไปเรียนอยู่ที่นั่น และคนไทยที่ไปทำงานอยู่ที่ออสเตรเลียรู้สึกเสียใจร้องไห้หนักมากทุกคนแทบไม่เชื่อว่าพระองค์ท่านจะเสด็จสวรรคตเร็ว คนไทยที่นั้นได้ไปรวมตัวกันที่สวนสาธารณะในเมืองซิดนีย์ เยอะมากเพื่อจุดเทียนถวายอาลัย และไปร่วมทำบุญตักบาตรมีพระสงฆ์มาสวด ล่าสุดครบ 100 วันก็ได้ร่วมกันทำบุญอุทิศกุศลถวาย มีการทำลิบบิ้นดำแจกกัน ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาก็ไม่มีงานเลี้ยงสังสรรค์เพราะทุกคนรู้สึกเศร้าอยู่ ทุกวันนี้คนไทยที่ออสเตรเลียก็ยังใส่ชุดไว้ทุกข์ด้วย
น.ส.ศิราณี กล่าวต่อว่า ตั้งใจอยากจะกลับมากราบตั้งแต่พระองค์ท่านเสด็จสวรรคตใหม่ ๆแล้วแต่ติดเรียน วันนี้พอลงเครื่องที่สุวรรณภูมิตี 3 ก็เดินทางมาบ้านญาติในกรุงเทพฯ แล้วชวนกันมาเข้าคิวที่สนามหลวงเลย ได้เข้ากราบประมาณ 07.00 น. รู้สึกดีใจมากที่ได้เดินทางมากราบพระองค์ท่านแล้ว วันนี้ก็ส่งภาพบรรยกาศไปให้เพื่อนๆที่ออสเตรเลียดูซึ่งพวกเขาก็อยากมาด้วยมากแต่ติดคอร์สเรียน จึงไม่สามารถเดินทางกลับมาพร้อมกันได้ ขณะเข้ากราบก็อธิษฐานให้พระองค์เสด็จสู่สรวงสวรรค์
ขณะที่ นายสวรรค์ คล่องแคล้ว อายุ 54 ปี อาชีพช่างตัดผม ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาพร้อมกับภรรยา ลูกสาวและหลานสาว โดยเช่าแท็กซี่มาจากชลบุรี เพราะกลัวว่าขับรถมาแล้วไม่มีที่จอด โดยเดินทางมาตั้งแต่เวลา 03.00 น.กว่า และมาถึงท้องสนามหลวงเวลา 04.00 น.กว่า ได้เข้ากราบสักการะพระบรมศพเสร็จประมาณ 07.00 น. ประทับใจเจ้าหน้าที่ที่จัดระบบ และให้บริการได้ดีมาก ขณะขึ้นไปกราบก็รู้สึกตื้นตันอธิษฐานขอให้พระองค์ท่านเสด็จสู่สวรรค์ชั้นสูงสุด ไม่ต้องห่วงพสกนิกร