วันนี้ (13 มี.ค.) ส.อ.นิธิทัศน์ ปานนิล นำกำลังพลจาก ร้อย ร.15212 หน่วยเฉพาะกิจยะลา 12 ประจำด่านตรวจเจ้าหน้าที่ทหารบ้านพงยือไร ถนนสาย 410 ยะลา-เบตง ซึ่งเป็นด่านตรวจหลักขาเข้าสู่เมืองยะลา เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคล บัตรประชาชน ผู้ขับขี่ วัตถุสิ่งของภายในรถที่จะผ่านด่านตรวจ ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ตามแผนรักษาความปลอดภัยเมืองยะลา และตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา ป้องกันคนร้ายที่อาจจะแฝงตัวนำวัตถุระเบิดซุกซ่อนเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่เขตเมือง เพื่อสร้างสถานการณ์เชิงสัญลักษณ์ ครบรอบ 57 ปี วันสถาปนากลุ่มขบวนการแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมลายูปัตตานี หรือบีอาร์เอ็น 13 มีนาคม 2503
ขณะเดียวกัน ภายในย่านชุมชน ตลาดการค้าเขตเมืองยะลา เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ อส. ได้กระจายกำลังเข้าควบคุมพื้นที่ ด้วยการลาดตะเวน พร้อมกับตั้งจุดตรวจจุดสกัด เพื่อยับยั้งกดดันกลุ่มคนร้ายไม่ให้มีโอกาสเข้ามาก่อเหตุในเขตเมืองยะลา
ทั้งนี้ หน่วยความมั่นคงได้แจ้งเตือนกลุ่มคนร้ายจะก่อเหตุพร้อมกันในพื้นที่จังหวัดชานแดนใต้ ในห้วงวันที่ 12-14 มีนาคม ให้ทุกหน่วยบูรณาการกำลังทุกส่วนเข้าควบคุมพื้นที่ พร้อมกับหาข่าวในพื้นที่ควบคู่ไปด้วย จัดกำลัง ชุดลาดตะเวน ซุ่มโจมตี หรือปิดล้อมตรวจค้นในเส้นทางเสี่ยงที่คาดว่าอาจจะเกิดเหตุ และที่เคยเกิดเหตุมาแล้ว เพื่อป้องปราม โดยให้หัวหน้าหน่วยควบคุมการปฎิบัติงาน รวมทั้งฐานปฎิบัติการทุกฐาน ชคต. ให้มีความพร้อมที่จะตอบโต้หากเกิดสถานการณ์ และให้ประสานส่วนราชการทุกหน่วย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ รปภ.ยาม ของโรงเรียน องค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่ ให้เพิ่มความระมัดระวังและมีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา
ขณะเดียวกัน ภายในย่านชุมชน ตลาดการค้าเขตเมืองยะลา เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ อส. ได้กระจายกำลังเข้าควบคุมพื้นที่ ด้วยการลาดตะเวน พร้อมกับตั้งจุดตรวจจุดสกัด เพื่อยับยั้งกดดันกลุ่มคนร้ายไม่ให้มีโอกาสเข้ามาก่อเหตุในเขตเมืองยะลา
ทั้งนี้ หน่วยความมั่นคงได้แจ้งเตือนกลุ่มคนร้ายจะก่อเหตุพร้อมกันในพื้นที่จังหวัดชานแดนใต้ ในห้วงวันที่ 12-14 มีนาคม ให้ทุกหน่วยบูรณาการกำลังทุกส่วนเข้าควบคุมพื้นที่ พร้อมกับหาข่าวในพื้นที่ควบคู่ไปด้วย จัดกำลัง ชุดลาดตะเวน ซุ่มโจมตี หรือปิดล้อมตรวจค้นในเส้นทางเสี่ยงที่คาดว่าอาจจะเกิดเหตุ และที่เคยเกิดเหตุมาแล้ว เพื่อป้องปราม โดยให้หัวหน้าหน่วยควบคุมการปฎิบัติงาน รวมทั้งฐานปฎิบัติการทุกฐาน ชคต. ให้มีความพร้อมที่จะตอบโต้หากเกิดสถานการณ์ และให้ประสานส่วนราชการทุกหน่วย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ รปภ.ยาม ของโรงเรียน องค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่ ให้เพิ่มความระมัดระวังและมีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา