กรมชลประทานยันน้ำทะเลหนุนสูงไม่กระทบระบบประปา

นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ได้เพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ จาก 27 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็น 30 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน และเพิ่มการระบายเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จาก 5 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็น 7 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เพื่อมาผลักดันน้ำเค็มจากน้ำทะเลหนุนสูงจะเริ่มหนุนตั้งแต่วันนี้ (8 มี.ค.) ต่อเนื่อง ซึ่งน้ำทะเลจะหนุนสูงสุด ในวันที่ 11-12 มี.ค. โดยขณะนี้จุดเฝ้าระวังน้ำเค็มที่ปากคลองสำแล จ.ปทุมธานี แหล่งน้ำจืดผลิตประปานครหลวง มีค่าความเค็มที่ 0.5 กรัมเกลือต่อลิตร ซึ่งเท่ากับเกณฑ์ควบคุมที่ต้องไม่ให้เกินจากนี้ ทำให้บางช่วงต้องหยุดสูบ ซึ่งมีน้ำสำรองไว้ในระบบคลองไปผลิตประปาได้ต่อเนื่อง
ทั้งนี้น้ำทะเลจะหนุนสูงสุดอีกรอบช่วงปลายเดือนนี้ในสัปดาห์สุดท้าย และผลักดันน้ำเค็ม ในลุ่มน้ำแม่กลอง โดยระบายน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์ 18 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนวชิราลงกรณ์ 2 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ขณะนี้จุดเฝ้าระวังไม่ให้น้ำเค็มกระทบสวนกล้วยไม้ ปากคลองจินดา จ.นครปฐม ยังอยู่ในเกณฑ์ควบคุมได้ โดยช่วงนี้ให้ปิดประตูน้ำในพื้นที่เจ้าพระยาตอนล่างทั้งหมด และลุ่มน้ำแม่กลอง เพื่อไม่ให้น้ำเค็มไหลเข้าระบบ และป้องกันไม่ให้น้ำจืดที่ปล่อยลงมาถูกดึงเข้าระบบจะเสียแรงดันน้ำเค็ม อาจเกิดปัญหาไม่พอผลักดันน้ำเค็มได้ ซี่งปีนี้มีปริมาณน้ำดีกว่าปีที่แล้วปัญหาน้ำเค็มจะไม่กระทบระบบประปา