บรรยากาศการไว้อาลัยและกราบสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 126 ในวันนี้ (8 มี.ค.) ตลอดทั้งวัน ยังมี พสกนิกรทุกหมู่เหล่าจากทั่วสารทิศของประเทศไทย เดินทางมารอต่อแถวเข้าถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ อย่างไม่ขาดสาย ตลอดทั้งวันตั้งแต่ช่วงเช้ามืด
นางสาวคำประไพ พองเต็ม อายุ 33 ปี ชาวจังหวัดอุบลราชธานี ที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ อาศัยอยู่แถวหลักสี่โดยยึดอาชีพรับจ้างดูแลคนป่วยตามบ้านพัก กล่าวภายหลังสักการพระบรมศพฯ ว่า มาเป็นครั้งที่3 แล้วแต่ไม่ได้รอนานเหมือนสองครั้งที่ผ่านมาที่รอนานถึง 12 ชม. รอบนี้มาถึงสนามหลวงตอน 08.00 น. และได้เข้าสักการะพระบรมศพบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทตอน 11.30 น. วินาทีที่ได้ก้มกราบพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ รู้สึกภูมิใจ ตื้นตันใจไม่ต่างจากทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา พระองค์ทรงทุ่มเทพระวรกายอย่างอย่างไม่เคยหยุดพัก และทรงช่วยเหลือประชาชนอย่างไม่เคยแบ่งแยกเชื้อชาติศาสนา นับเป็นพระราชาผู้ยิ่งใหญ่ในปวงชนชาวไทยอย่างแท้จริง
หลังจากกราบสักการะพระบรมศพแล้ว นางสาวภูวดี คุนผลิน ที่มาร่วมในคณะเจ้าภาพ เปิดเผยว่า ตัวเองเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา รุ่นที่ 49 วันนี้จึงมีโอกาสได้เข้ามากราบสักการะพระบรมศพในหลวง ร.9 อีกครั้ง นับเป็นครั้งที่ 3 แล้ว ซึ่งครั้งนี้โชคดีมาก ได้ใกล้ชิดพระองค์ท่านมากที่สุด เพราะได้ขึ้นไปนั่งฟังพระสวดด้านบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทด้วย
นางขวัญเรือน โพธิ์ทอง อายุ 53 ปี พนักงานบัญชีบริษัทแห่งหนึ่งย่านบางนา กล่าวภายหลังเข้ากราบสักการะพระบรมศพเป็นครั้งที่ 17 ว่า มีความตั้งใจจะมาถวายสักการะพระบรมศพให้ครบ 19 ครั้ง เพราะถือเป็นเลขมงคลของตัวเองเพื่อจะให้ชีวิตก้าวหน้าต่อไป จากการมาสักการะทั้ง 17 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.2559 เป็นต้นมา เผชิญมาทุกสภาพอากาศไม่ว่าจะร้อนอบอ้าวหรือฝนตกหนัก เคยต่อแถวรอนานสุด 15 ชั่วโมง ก็ไม่ย่อท้อแต่รู้สึกปลาบปลื้มและชุ่มชื่นหัวใจทุกครั้งที่ได้มา
ด.ช.ภัทราวุธ ดอนงาม อายุ 15 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนภัทรญาณวิทยา จ.นครปฐม กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาพร้อมกับคุณครูสอนวิชาดนตรีไทย ของโรงเรียน เนื่องจากตนเล่นระนาดเอก ส่วนเพื่อนร่วมห้อง คือ ด.ช.พลพล ศรีสุทรี เล่นฆ้อง คุณครูจึงได้พามากราบถวายบังคมพระบรมศพในหลวง ร.9 รู้สึกดีใจมาก ขณะขึ้นไปกราบก็รู้สึกเศร้าใจที่พระองค์ท่านสวรรคต ช่วงที่พระองค์สวรรคตใหม่ๆ ได้ร่วมกิจกรรมต่างๆกับทางโรงเรียน เช่น ร่วมแปรอักษรเป็นเลขเก้าไทย ถวายความอาลัย เพราะพระองค์ท่านเป็นผู้มีพระมหากรุณาธิคุณต่อแผ่นดินไทย ท่านทรงไปทุกที่เพื่อไปดูแลและเยี่ยมราษฎร์โดยไม่กลัวกับความลำบาก พระองค์ท่านทำให้ประชาชนและประเทศชาติเจริญรุ่งเรืองขึ้น
นางสาวคำประไพ พองเต็ม อายุ 33 ปี ชาวจังหวัดอุบลราชธานี ที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ อาศัยอยู่แถวหลักสี่โดยยึดอาชีพรับจ้างดูแลคนป่วยตามบ้านพัก กล่าวภายหลังสักการพระบรมศพฯ ว่า มาเป็นครั้งที่3 แล้วแต่ไม่ได้รอนานเหมือนสองครั้งที่ผ่านมาที่รอนานถึง 12 ชม. รอบนี้มาถึงสนามหลวงตอน 08.00 น. และได้เข้าสักการะพระบรมศพบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทตอน 11.30 น. วินาทีที่ได้ก้มกราบพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ รู้สึกภูมิใจ ตื้นตันใจไม่ต่างจากทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา พระองค์ทรงทุ่มเทพระวรกายอย่างอย่างไม่เคยหยุดพัก และทรงช่วยเหลือประชาชนอย่างไม่เคยแบ่งแยกเชื้อชาติศาสนา นับเป็นพระราชาผู้ยิ่งใหญ่ในปวงชนชาวไทยอย่างแท้จริง
หลังจากกราบสักการะพระบรมศพแล้ว นางสาวภูวดี คุนผลิน ที่มาร่วมในคณะเจ้าภาพ เปิดเผยว่า ตัวเองเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา รุ่นที่ 49 วันนี้จึงมีโอกาสได้เข้ามากราบสักการะพระบรมศพในหลวง ร.9 อีกครั้ง นับเป็นครั้งที่ 3 แล้ว ซึ่งครั้งนี้โชคดีมาก ได้ใกล้ชิดพระองค์ท่านมากที่สุด เพราะได้ขึ้นไปนั่งฟังพระสวดด้านบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทด้วย
นางขวัญเรือน โพธิ์ทอง อายุ 53 ปี พนักงานบัญชีบริษัทแห่งหนึ่งย่านบางนา กล่าวภายหลังเข้ากราบสักการะพระบรมศพเป็นครั้งที่ 17 ว่า มีความตั้งใจจะมาถวายสักการะพระบรมศพให้ครบ 19 ครั้ง เพราะถือเป็นเลขมงคลของตัวเองเพื่อจะให้ชีวิตก้าวหน้าต่อไป จากการมาสักการะทั้ง 17 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.2559 เป็นต้นมา เผชิญมาทุกสภาพอากาศไม่ว่าจะร้อนอบอ้าวหรือฝนตกหนัก เคยต่อแถวรอนานสุด 15 ชั่วโมง ก็ไม่ย่อท้อแต่รู้สึกปลาบปลื้มและชุ่มชื่นหัวใจทุกครั้งที่ได้มา
ด.ช.ภัทราวุธ ดอนงาม อายุ 15 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนภัทรญาณวิทยา จ.นครปฐม กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาพร้อมกับคุณครูสอนวิชาดนตรีไทย ของโรงเรียน เนื่องจากตนเล่นระนาดเอก ส่วนเพื่อนร่วมห้อง คือ ด.ช.พลพล ศรีสุทรี เล่นฆ้อง คุณครูจึงได้พามากราบถวายบังคมพระบรมศพในหลวง ร.9 รู้สึกดีใจมาก ขณะขึ้นไปกราบก็รู้สึกเศร้าใจที่พระองค์ท่านสวรรคต ช่วงที่พระองค์สวรรคตใหม่ๆ ได้ร่วมกิจกรรมต่างๆกับทางโรงเรียน เช่น ร่วมแปรอักษรเป็นเลขเก้าไทย ถวายความอาลัย เพราะพระองค์ท่านเป็นผู้มีพระมหากรุณาธิคุณต่อแผ่นดินไทย ท่านทรงไปทุกที่เพื่อไปดูแลและเยี่ยมราษฎร์โดยไม่กลัวกับความลำบาก พระองค์ท่านทำให้ประชาชนและประเทศชาติเจริญรุ่งเรืองขึ้น