นายอุตตมะ สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมแถลงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์ หรือ มินิคาร์บิเนต ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแนวทางพัฒนาอุตสาหกรรมอากาศยาน และให้แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายพัฒนาอุตสาหกรรมอากาศยาน โดยมีรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับหมายหมายเป็นประธาน มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นคณะกรรมการ โดยจะดูแลการพัฒนาตามแผนยุทธศาตร์ ทั้งในเรื่องของการขนส่งผู้โดยสารและสินค้า รวมถึงการสร้างอุตสาหกรรมใหม่ ในเรื่องของการซ่อมสร้างอากาศยาน ซึ่งตัวคณะกรรมการทั้งหมดเตรียมเสนอนายกรัฐมนตรีให้มีการจัดตั้งในสัปดาห์หน้า
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอากาศยาน จะทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น โดยมีการประเมินว่า ในปี 2578 จะมีการจ้างงานเพิ่มเป็น 3.8 - 4 ล้านคน ในขณะที่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค จะมีความเติบโตในด้านการใช้อากาศยาน เพิ่มขึ้นกว่า 12,820 ลำ ดังนั้น จึงถือเป็นโอกาสที่ไทยจะได้พัฒนาเพื่อเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมการบินของภูมิภาค โดยจำเป็นต้องพัฒนาสนามบิน ระบบการขนส่ง และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการบิน ซึ่งการพัฒนาสนามบิน แบ่งเป็น 3 ระดับ คือ พัฒนาสนามบินหลัก 3 แห่ง สนามบินภูมิภาค 10 แห่ง และสนามบินระดับจังหวัด 26 แห่ง โดยในส่วนของสนามบินหลัก คือ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง และอู่ตะเภา ใช้เวลาดำเนินการ 10 ปี เงินลงทุน 320,000 ล้านบาท เพื่อรองรับผู้โดยสารจาก 78 ล้านคน เป็น 160 ล้านคนต่อปี
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอากาศยาน จะทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น โดยมีการประเมินว่า ในปี 2578 จะมีการจ้างงานเพิ่มเป็น 3.8 - 4 ล้านคน ในขณะที่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค จะมีความเติบโตในด้านการใช้อากาศยาน เพิ่มขึ้นกว่า 12,820 ลำ ดังนั้น จึงถือเป็นโอกาสที่ไทยจะได้พัฒนาเพื่อเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมการบินของภูมิภาค โดยจำเป็นต้องพัฒนาสนามบิน ระบบการขนส่ง และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการบิน ซึ่งการพัฒนาสนามบิน แบ่งเป็น 3 ระดับ คือ พัฒนาสนามบินหลัก 3 แห่ง สนามบินภูมิภาค 10 แห่ง และสนามบินระดับจังหวัด 26 แห่ง โดยในส่วนของสนามบินหลัก คือ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง และอู่ตะเภา ใช้เวลาดำเนินการ 10 ปี เงินลงทุน 320,000 ล้านบาท เพื่อรองรับผู้โดยสารจาก 78 ล้านคน เป็น 160 ล้านคนต่อปี