นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวถึงสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ 9 จังหวัดวันนี้ ว่า คุณภาพอากาศอยู่ในระดับคุณภาพปานกลางถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยมีปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เพิ่มสูงสุดอยู่ที่ 169 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ที่ ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง และ ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง 158 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ถือว่าเกินจากค่ามาตรฐานกำหนดไว้ไม่เกิน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ส่วน ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ค่าก๊าซโอโซนเกินค่ามาตรฐาน อยู่ที่ 102 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง อยู่ที่ 102 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง อยู่ที่ 101 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เนื่องจากประชาชนลักลอบเผาเพื่อหาของป่า โดยมีพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือ ลำปาง ลำพูน น่าน และแพร่ ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า สถานการณ์วันพรุ่งนี้ (7 มี.ค.) ทุกจังหวัดมีแนวโน้มฝุ่นละอองสูงขึ้น ยกเว้นจังหวัดเชียงราย แม่ฮ่องสอน พะเยา และตาก
อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวย้ำว่า ขอให้ทุกจังหวัดเฝ้าระวังและดับไฟอย่างเข้มงวด เนื่องจากมีจุดความร้อนกระจายอยู่หลายจังหวัด ควบคู่กับชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์และการปฏิบัติตนเองที่ถูกต้อง เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพและขอความร่วมมืองดการเผาป่าและเศษวัสดุการเกษตรอย่างเคร่งครัด
ส่วน ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ค่าก๊าซโอโซนเกินค่ามาตรฐาน อยู่ที่ 102 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง อยู่ที่ 102 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง อยู่ที่ 101 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เนื่องจากประชาชนลักลอบเผาเพื่อหาของป่า โดยมีพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือ ลำปาง ลำพูน น่าน และแพร่ ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า สถานการณ์วันพรุ่งนี้ (7 มี.ค.) ทุกจังหวัดมีแนวโน้มฝุ่นละอองสูงขึ้น ยกเว้นจังหวัดเชียงราย แม่ฮ่องสอน พะเยา และตาก
อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวย้ำว่า ขอให้ทุกจังหวัดเฝ้าระวังและดับไฟอย่างเข้มงวด เนื่องจากมีจุดความร้อนกระจายอยู่หลายจังหวัด ควบคู่กับชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์และการปฏิบัติตนเองที่ถูกต้อง เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพและขอความร่วมมืองดการเผาป่าและเศษวัสดุการเกษตรอย่างเคร่งครัด