นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือเรื่องร้องเรียนถึงประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผ่านนายสุทธิ บุญมี ผู้อำนวยการสำนักการข่าวและกิจการพิเศษ ขอให้ตรวจสอบกรณี นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญ เพื่อการลงทุนทำธุรกิจที่ดินเขาใหญ่
โดย นายเรืองไกร กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการตรวจสอบพบว่า รัฐมนตรีทั้ง 2 ราย อาจมีการถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนสามัญ ซึ่งอาจเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.การจัดการหุ้นของรัฐมนตรี จากการลงทุนทำธุรกิจที่ดินเขาใหญ่ เพราะเข้าลักษณะเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญ ซึ่งเป็นข้อห้ามตามมาตรา 4 ของกฎหมายดังกล่าว และไม่ได้มีข้อยกเว้นการถือหุ้นเกินหรือไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์
นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า และตามความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่ 838/2557 ว่าข้าราชการการเมืองซึ่งดำรงตำแหน่งตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.กำหนด และรัฐมนตรีจะต้องปฏิบัติตาม มาตรา 4 ของ พ.ร.บ.การจัดการหุ้นของรัฐมนตรี และมาตรา 100 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาตนได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ปรับรัฐมนตรีทั้ง 2 ออกจากตำแหน่ง ซึ่งที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่ยังปล่อยปละละเลยไม่ดำเนินการปรับบุคคลทั้ง 2 ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี ดังนั้นจึงขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ พล.อ.ประยุทธ์ ว่ามีการกระทำเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 123/1 ของ พ.ร.บ.ป.ป.ช. หรือไม่ และขอให้ตรวจสอบนายอุตตม ว่าเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 123/1 ของ พ.ร.บ.ป.ป.ช. และมาตรา 4 ของ พ.ร.บ.การจัดการหุ้นของรัฐมนตรีหรือไม่ และขอให้ตรวจสอบ นายสนธิรัตน์ ว่าเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 123/1 ของ พ.ร.บ.ป.ป.ช. และมาตรา 4 ประกอบมาตรา 11 ของ พ.ร.บ.การจัดการหุ้นของรัฐมนตรีหรือไม่ โดยขอให้ ป.ป.ช.รีบดำเนินการตั้งคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงภายใน 7 วัน
โดย นายเรืองไกร กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการตรวจสอบพบว่า รัฐมนตรีทั้ง 2 ราย อาจมีการถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนสามัญ ซึ่งอาจเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.การจัดการหุ้นของรัฐมนตรี จากการลงทุนทำธุรกิจที่ดินเขาใหญ่ เพราะเข้าลักษณะเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญ ซึ่งเป็นข้อห้ามตามมาตรา 4 ของกฎหมายดังกล่าว และไม่ได้มีข้อยกเว้นการถือหุ้นเกินหรือไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์
นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า และตามความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่ 838/2557 ว่าข้าราชการการเมืองซึ่งดำรงตำแหน่งตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.กำหนด และรัฐมนตรีจะต้องปฏิบัติตาม มาตรา 4 ของ พ.ร.บ.การจัดการหุ้นของรัฐมนตรี และมาตรา 100 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาตนได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ปรับรัฐมนตรีทั้ง 2 ออกจากตำแหน่ง ซึ่งที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่ยังปล่อยปละละเลยไม่ดำเนินการปรับบุคคลทั้ง 2 ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี ดังนั้นจึงขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ พล.อ.ประยุทธ์ ว่ามีการกระทำเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 123/1 ของ พ.ร.บ.ป.ป.ช. หรือไม่ และขอให้ตรวจสอบนายอุตตม ว่าเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 123/1 ของ พ.ร.บ.ป.ป.ช. และมาตรา 4 ของ พ.ร.บ.การจัดการหุ้นของรัฐมนตรีหรือไม่ และขอให้ตรวจสอบ นายสนธิรัตน์ ว่าเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 123/1 ของ พ.ร.บ.ป.ป.ช. และมาตรา 4 ประกอบมาตรา 11 ของ พ.ร.บ.การจัดการหุ้นของรัฐมนตรีหรือไม่ โดยขอให้ ป.ป.ช.รีบดำเนินการตั้งคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงภายใน 7 วัน