วันนี้ (1 มี.ค.) ผู้พิพากษาศาลจังหวัดเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 8 คดีฆาตกรรมสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่า โดยมีนายธีระวุฒิ พราหมหันต์ รองอัยการจังหวัดเกาะสมุย ฝ่ายโจทก์ฟังรับฟังคำตัดสินแทนผู้เสียหายฝ่ายโจทก์ โดยคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ภาค 8 ได้พิจารณาคดีดังกล่าวตามศาลชั้นต้นว่า การอุทธรณ์ของทนายฝ่ายจำเลยทั้งสอง ได้แก่ นายซอลิน เป็นจำเลยที่ 1 และนายเวพิว เป็นจำเลยที่ 2 แรงงานชาวพม่าที่อ้างว่าฝ่ายโจทก์ไม่มีเอกสารและภาพถ่ายในขั้นตอนการจัดเก็บวัตถุพยานการบรรจุปิดผนึก การส่ง และรับวัตถุพยาน และการตรวจสอบวัตถุพยานบางขั้นตอนมาเป็นพยานนั้น เห็นว่าในการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับคดีนี้ นับแต่พนักงานสอบสวนรับแจ้งเหตุเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ อันเป็นจุดเริ่มต้นของการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานไปจนถึงการตรวจพิสูจน์เสร็จสิ้น ผู้ตรวจพิสูจน์ออกรายงานส่งให้พนักงานสอบสวนมีเหตุการณ์ขั้นตอนที่ต้องดำเนินการหลายขั้นตอนการทำเอกสารถ่ายภาพเหตุการณ์และขั้นตอนต่างๆ ทั้งหมดเพื่อเก็บไว้ย่อมเป็นไปไม่ได้
การที่โจทก์ไม่ได้เอกสารหรือภาพถ่ายของเหตุการณ์บางขั้นตอน เช่น ไม่ได้รับภาพถ่ายขณะที่ตรวจเก็บวัตถุพยานจากช่องคลอดทวารหนัก และหัวนมของผู้ตายที่ 2 มาเป็นพยาน จึงไม่เป็นข้อพิรุธที่จะระแวงว่าเจ้าพนักงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้ปฏิบัติงานในขั้นตอนในการตรวจเก็บนั้น เพราะสิ่งที่ทำให้ศาลเชื่อหรือไม่เชื่อพยานหลักฐานของโจทก์นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับภาพถ่ายภาพหนึ่งภาพใด หรือเอกสารฉบับหนึ่งฉบับใดของเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง หรือขั้นตอนใดชั้นตอนหนึ่งเท่านั้น แต่ศาลเชื่อพยานหลักฐานของโจทก์ก็โดยพิจารณาจากพยานหลักฐานทั้งปวงที่โจทก์นำสืบมาทั้งหมดว่ามีเหตุผลเชื่อมโยงมั่นคงหนักแน่น จนแน่ใจว่ามีการกระทำผิดจริง และจำเลยทั้งสองเป็นผู้กระทำความผิดนั้นโดยปราศจากความสงสัยใดๆ ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
สำหรับเหตุผลอื่นๆ ตามอุทธรณ์ข้ออื่นของจำเลยทั้งสองไม่เป็นสาระและไม่ทำให้ผลแห่งคำพิพากษาเปลี่ยนแปลงไป จึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองมานั้น ศาลอุทธรณ์ภาค 8 เห็นพ้องด้วยอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น ผู้พิพากษาศาลจังหวัดเกาะสมุยจึงได้อ่านคำตัดสินศาลอุทธรณ์ที่พิจารณาตามศาลชั้นต้นคือให้ประหารชีวิต นายซอลิน และนายเวพิว
คดีนี้่สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2557 เวลาหลังเที่ยงคืน จำเลยทั้ง 2 มีเจตนาฆ่านายเดวิดวิลเลียม มิลเลอร์ อายุ 24 ปี โดยการใช้ด้ามจอบตีจนถึงแก่ความตาย และ น.ส.ฮานนาห์ วิคตอเรีย วิทเธอริดจ์ อายุ 24 ปี ถูกจำเลยทั้งสองข่มขืนกระทำชำเราและใช้จอบตีทำร้ายจนเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณโขดหินหาดทรายรี หมู่ 1 ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี จากนั้นประมาณ 2 สัปดาห์ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมนายซอลิน ผู้ต้องหาได้ที่เกาะเต่า ส่วนนายเวพิว ผู้ต้องหาอีกรายได้หลบหนีไปและถูกจับกุมได้ที่ท่าเทียบเรือนอนในตัวเมือง จ.สุราษฎร์ธานี กระทั่งเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2558 ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ประหารชีวิตจำเลยทั้ง 2 คน
การที่โจทก์ไม่ได้เอกสารหรือภาพถ่ายของเหตุการณ์บางขั้นตอน เช่น ไม่ได้รับภาพถ่ายขณะที่ตรวจเก็บวัตถุพยานจากช่องคลอดทวารหนัก และหัวนมของผู้ตายที่ 2 มาเป็นพยาน จึงไม่เป็นข้อพิรุธที่จะระแวงว่าเจ้าพนักงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้ปฏิบัติงานในขั้นตอนในการตรวจเก็บนั้น เพราะสิ่งที่ทำให้ศาลเชื่อหรือไม่เชื่อพยานหลักฐานของโจทก์นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับภาพถ่ายภาพหนึ่งภาพใด หรือเอกสารฉบับหนึ่งฉบับใดของเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง หรือขั้นตอนใดชั้นตอนหนึ่งเท่านั้น แต่ศาลเชื่อพยานหลักฐานของโจทก์ก็โดยพิจารณาจากพยานหลักฐานทั้งปวงที่โจทก์นำสืบมาทั้งหมดว่ามีเหตุผลเชื่อมโยงมั่นคงหนักแน่น จนแน่ใจว่ามีการกระทำผิดจริง และจำเลยทั้งสองเป็นผู้กระทำความผิดนั้นโดยปราศจากความสงสัยใดๆ ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
สำหรับเหตุผลอื่นๆ ตามอุทธรณ์ข้ออื่นของจำเลยทั้งสองไม่เป็นสาระและไม่ทำให้ผลแห่งคำพิพากษาเปลี่ยนแปลงไป จึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองมานั้น ศาลอุทธรณ์ภาค 8 เห็นพ้องด้วยอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น ผู้พิพากษาศาลจังหวัดเกาะสมุยจึงได้อ่านคำตัดสินศาลอุทธรณ์ที่พิจารณาตามศาลชั้นต้นคือให้ประหารชีวิต นายซอลิน และนายเวพิว
คดีนี้่สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2557 เวลาหลังเที่ยงคืน จำเลยทั้ง 2 มีเจตนาฆ่านายเดวิดวิลเลียม มิลเลอร์ อายุ 24 ปี โดยการใช้ด้ามจอบตีจนถึงแก่ความตาย และ น.ส.ฮานนาห์ วิคตอเรีย วิทเธอริดจ์ อายุ 24 ปี ถูกจำเลยทั้งสองข่มขืนกระทำชำเราและใช้จอบตีทำร้ายจนเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณโขดหินหาดทรายรี หมู่ 1 ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี จากนั้นประมาณ 2 สัปดาห์ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมนายซอลิน ผู้ต้องหาได้ที่เกาะเต่า ส่วนนายเวพิว ผู้ต้องหาอีกรายได้หลบหนีไปและถูกจับกุมได้ที่ท่าเทียบเรือนอนในตัวเมือง จ.สุราษฎร์ธานี กระทั่งเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2558 ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ประหารชีวิตจำเลยทั้ง 2 คน