นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า เรื่องปัญหาผู้ประกอบการที่มาเรียกร้องขอลดค่าธรรมเนียมนั้น กรมอุทยานฯ ยืนยันเหมือนเดิมว่า ลดค่าธรรมเนียมไม่ได้ เนื่องจากราคาเหมาะสมกับสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ซึ่งขณะนี้เข้าสู่ภาวะปกติเหมือนเดิม เชื่อว่าไม่มีผู้มีอิทธิพลเข้ามาข่มขู่ นายศรายุทธ ตันเถียร หัวหน้าอุทยานฯ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จนทำให้ต้องขอโยกย้ายแต่อย่างใด
นายณัฐพล รัตนพันธ์ ผู้อำนวยการส่วนจัดการอุทยานแห่งชาติทางทะเล กล่าวว่า เรื่องรายได้ของเจ้าของเรือหางยาว และเรือสปีดโบ๊ทนั้น ไม่เกี่ยวกับการที่อุทยานเก็บค่าเข้าอุทยาน 400 บาท เพราะอัตราดังกล่าวนั้นสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ถือว่าถูกที่สุดในโลกแล้ว แต่ปัญหาอยู่ที่การบริหารจัดการของผู้ประกอบกิจการเรือรับจ้างเหล่านั้นเอง
นอกจากนี้ ยังพบว่าเรือสปีดโบ๊ท และเรือหางยาวส่วนหนึ่งเจ้าของเรือไม่ได้ขับเรือเอง แต่มีการจ้างลูกจ้างให้มาขับ จึงเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่าย และต้นทุนในการประกอบการด้วย เรื่องที่กลุ่มผู้ประกอบการอ้างว่ารายได้ไม่เพียงพอ โดยเกิดจากรูปแบบการท่องเที่ยวเปลี่ยนไป นักท่องเที่ยวต่างชาติเกือบ 80% นั้นจะเข้ามาโดยการซื้อทัวร์ ซึ่งจะเหมาจ่ายเงินครั้งเดียวรวมทั้งค่าเข้าอุทยานด้วย จะมีก็เฉพาะนักท่องเที่ยวที่มาแบบแบกเป้ ที่ไม่ค่อยจะมีเงินมากนักตามที่ผู้ประกอบการเรือฯกล่าว ซึ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรกับกรมอุทยานเลย
ทั้งนี้ หลังจากที่กรมอุทยานฯ ประกาศไม่ยอมลดค่าเข้าปรากฏว่า มีกลุ่มคนขับเรือหางยางและสปีดโบ๊ทกลุ่มหนึ่งประกาศตามมาว่าจะทำตัวอารยขัดขืน ไม่ยอมจ่ายค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ 400 บาท แต่จ่ายแค่ 200 บาทเท่านั้น ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ถ่ายรูปเก็บภาพคนเหล่านี้ และได้เอาหลักฐานทั้งหมดไปแจ้งความดำเนินคดีแล้ว
นายณัฐพล รัตนพันธ์ ผู้อำนวยการส่วนจัดการอุทยานแห่งชาติทางทะเล กล่าวว่า เรื่องรายได้ของเจ้าของเรือหางยาว และเรือสปีดโบ๊ทนั้น ไม่เกี่ยวกับการที่อุทยานเก็บค่าเข้าอุทยาน 400 บาท เพราะอัตราดังกล่าวนั้นสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ถือว่าถูกที่สุดในโลกแล้ว แต่ปัญหาอยู่ที่การบริหารจัดการของผู้ประกอบกิจการเรือรับจ้างเหล่านั้นเอง
นอกจากนี้ ยังพบว่าเรือสปีดโบ๊ท และเรือหางยาวส่วนหนึ่งเจ้าของเรือไม่ได้ขับเรือเอง แต่มีการจ้างลูกจ้างให้มาขับ จึงเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่าย และต้นทุนในการประกอบการด้วย เรื่องที่กลุ่มผู้ประกอบการอ้างว่ารายได้ไม่เพียงพอ โดยเกิดจากรูปแบบการท่องเที่ยวเปลี่ยนไป นักท่องเที่ยวต่างชาติเกือบ 80% นั้นจะเข้ามาโดยการซื้อทัวร์ ซึ่งจะเหมาจ่ายเงินครั้งเดียวรวมทั้งค่าเข้าอุทยานด้วย จะมีก็เฉพาะนักท่องเที่ยวที่มาแบบแบกเป้ ที่ไม่ค่อยจะมีเงินมากนักตามที่ผู้ประกอบการเรือฯกล่าว ซึ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรกับกรมอุทยานเลย
ทั้งนี้ หลังจากที่กรมอุทยานฯ ประกาศไม่ยอมลดค่าเข้าปรากฏว่า มีกลุ่มคนขับเรือหางยางและสปีดโบ๊ทกลุ่มหนึ่งประกาศตามมาว่าจะทำตัวอารยขัดขืน ไม่ยอมจ่ายค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ 400 บาท แต่จ่ายแค่ 200 บาทเท่านั้น ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ถ่ายรูปเก็บภาพคนเหล่านี้ และได้เอาหลักฐานทั้งหมดไปแจ้งความดำเนินคดีแล้ว