บรรยากาศการไว้อาลัยและกราบสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง วันนี้ (23 ก.พ.) เป็นวันที่ 113 ของการสักการะพระบรมศพ โดยตลอดทั้งวัน ยังมีพสกนิกรทุกหมู่เหล่าจากทั่วสารทิศของประเทศไทย อาทิ จากจังหวัดสมุทรปราการ, ชุมพร, ตราด,พระนครศรีอยุธยา ฯลฯ เดินทางมารอต่อแถวเข้าถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ อย่างไม่ขาดสาย ตลอดทั้งวันตั้งแต่ช่วงเช้ามืด
นางระเบียบ ยวนเกิด อายุ 70 ปี ซึ่งเดินทางมาจาก อ.เมือง จ.ชุมพร เมื่อ 3 วันก่อน โดยพักอยู่กับหลานชาย นายณัฐดนัย ยวนเกิด ย่านพระประแดง สมุทรปราการ ก่อนเข้าต่อคิวสักการะพระบรมศพเมื่อช่วงตี 5 กล่าวว่า ประทับใจและรู้สึกสบายใจ ที่ได้มากราบสักการะสักครั้งหนึ่งในชีวิตแล้ว รู้สึกซาบซึ้งที่ตลอด 70 ปีที่ผ่านมา พระองค์ทรงงานหนักเพื่อคนไทยทุกคน ที่จังหวัดชุมพรเอง ในอดีตเกิดอุทกภัยหลายครั้ง ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำริให้สร้าง โครงการแก้มลิงหนองใหญ่ขึ้น เมื่อปี พ.ศ.2541 กักเก็บน้ำสำหรับการเพาะปลูก ทำให้ชุมพรน้ำไม่ท่วม ชาวบ้านชาวสวนทำมาหากินได้ ส่วนตัวทำสวนทุเรียน ได้นำเศรษฐกิจผสมผสานมาปรับใช้ ปลูกกล้วย มะละกอ มะพร้าวแซมพื้นที่ต่างๆ พยายามสืบสานคำสอนและความดีต่อไป
ด้านนายณัฐดนัย ยวนเกิด อายุ 35 ปี อาชีพสัตวแพทย์ ย่านพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า ตนในฐานะนายสัตว์แพทย์ที่เปิดคลินิครักษาสัตว์ทั่วไปนั้น ได้ยึดหลักการทรงงานของในหลวงรัชกาลที่ 9 มายึดปฏิบัติในการทำงาน โดยเฉพาะเรื่องการรักษาสัตว์ ตนบอกกับตัวเองอยู่เสมอว่าต้องรักษาสัตว์ทุกตัวอย่างเท่าเทียมกันไม่ว่าจะเป็นสัตว์ที่มีเจ้าของหรือไม่มีเจ้าของก็ตาม เพราะในหลวงรัชกาลที่ 9 มิได้เคยรังเกียจสัตว์จรจัด อย่างคุณทองแดง ที่มีแม่เป็นสุนัขจรจัด แต่พระองค์ก็มิได้ทรงรังเกียจ หากแต่ทรงรักและมีพระเมตตากับคุณทองแดงเหมือนดังสัตว์เลี้ยงตัวอื่นของพระองค์ ดังนั้น พระองค์จึงเป็นต้นแบบของตนอย่างแท้จริงในการทำงาน นอกจากเรื่องการทำงานแล้วตนยังยึดแนวความคิดเรื่องความพอเพียงมาปรับใช้ในการในดำเนินชีวิต โดยทุกวันนี้ใช้ชีวิตอย่างมัธยัสถ์ ใช้ในสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น
ขณะที่ นายพัลลภ ไทยอารีย์ รองประธานองค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก (พ.ส.ล.) ในฐานะเจ้าภาพบำเพ็ญพระกุศล กล่าวด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณว่า นับตั้งแต่องค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2493 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภุมิพลอดุยเดช ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์อันดับที่ 1 และทรงสนับสนุนการดำเนินงานขององค์การเพื่อประสานความเป็นปึกแผ่นทางพระพุทธศาสนา เช่น เมื่อองค์การจะย้ายสำนักงานใหญ่ ก็มีพระมหากรุณาธิคุณให้ก่อตั้งในประเทศไทย ถัดจากประเทศศรีลังกาและเมียนมาร์ ตามลำดับ เพื่อความเป็นปึกแผ่นทางพระพุทธศาสนา นอกจากนี้ ยังทรงสนับสนุนทุกครั้งเมื่อมีการจัดประชุมต่างๆ
นางระเบียบ ยวนเกิด อายุ 70 ปี ซึ่งเดินทางมาจาก อ.เมือง จ.ชุมพร เมื่อ 3 วันก่อน โดยพักอยู่กับหลานชาย นายณัฐดนัย ยวนเกิด ย่านพระประแดง สมุทรปราการ ก่อนเข้าต่อคิวสักการะพระบรมศพเมื่อช่วงตี 5 กล่าวว่า ประทับใจและรู้สึกสบายใจ ที่ได้มากราบสักการะสักครั้งหนึ่งในชีวิตแล้ว รู้สึกซาบซึ้งที่ตลอด 70 ปีที่ผ่านมา พระองค์ทรงงานหนักเพื่อคนไทยทุกคน ที่จังหวัดชุมพรเอง ในอดีตเกิดอุทกภัยหลายครั้ง ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำริให้สร้าง โครงการแก้มลิงหนองใหญ่ขึ้น เมื่อปี พ.ศ.2541 กักเก็บน้ำสำหรับการเพาะปลูก ทำให้ชุมพรน้ำไม่ท่วม ชาวบ้านชาวสวนทำมาหากินได้ ส่วนตัวทำสวนทุเรียน ได้นำเศรษฐกิจผสมผสานมาปรับใช้ ปลูกกล้วย มะละกอ มะพร้าวแซมพื้นที่ต่างๆ พยายามสืบสานคำสอนและความดีต่อไป
ด้านนายณัฐดนัย ยวนเกิด อายุ 35 ปี อาชีพสัตวแพทย์ ย่านพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า ตนในฐานะนายสัตว์แพทย์ที่เปิดคลินิครักษาสัตว์ทั่วไปนั้น ได้ยึดหลักการทรงงานของในหลวงรัชกาลที่ 9 มายึดปฏิบัติในการทำงาน โดยเฉพาะเรื่องการรักษาสัตว์ ตนบอกกับตัวเองอยู่เสมอว่าต้องรักษาสัตว์ทุกตัวอย่างเท่าเทียมกันไม่ว่าจะเป็นสัตว์ที่มีเจ้าของหรือไม่มีเจ้าของก็ตาม เพราะในหลวงรัชกาลที่ 9 มิได้เคยรังเกียจสัตว์จรจัด อย่างคุณทองแดง ที่มีแม่เป็นสุนัขจรจัด แต่พระองค์ก็มิได้ทรงรังเกียจ หากแต่ทรงรักและมีพระเมตตากับคุณทองแดงเหมือนดังสัตว์เลี้ยงตัวอื่นของพระองค์ ดังนั้น พระองค์จึงเป็นต้นแบบของตนอย่างแท้จริงในการทำงาน นอกจากเรื่องการทำงานแล้วตนยังยึดแนวความคิดเรื่องความพอเพียงมาปรับใช้ในการในดำเนินชีวิต โดยทุกวันนี้ใช้ชีวิตอย่างมัธยัสถ์ ใช้ในสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น
ขณะที่ นายพัลลภ ไทยอารีย์ รองประธานองค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก (พ.ส.ล.) ในฐานะเจ้าภาพบำเพ็ญพระกุศล กล่าวด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณว่า นับตั้งแต่องค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2493 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภุมิพลอดุยเดช ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์อันดับที่ 1 และทรงสนับสนุนการดำเนินงานขององค์การเพื่อประสานความเป็นปึกแผ่นทางพระพุทธศาสนา เช่น เมื่อองค์การจะย้ายสำนักงานใหญ่ ก็มีพระมหากรุณาธิคุณให้ก่อตั้งในประเทศไทย ถัดจากประเทศศรีลังกาและเมียนมาร์ ตามลำดับ เพื่อความเป็นปึกแผ่นทางพระพุทธศาสนา นอกจากนี้ ยังทรงสนับสนุนทุกครั้งเมื่อมีการจัดประชุมต่างๆ