พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ดูแลงานจราจร กล่าวว่า สำหรับผลการปฏิบัติในการกวดขันจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายจราจรด้วยกล้องบันทึกภาพ ซึ่งทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้กำชับให้ตำรวจราจรทั้ง 88 สน. ดำเนินการกวดขันวินัยจราจรมาตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน ดำเนินการมาแล้วกว่า 20 วัน ขณะนี้มีผลการตรวจจับผู้กระทำความผิดด้วยกล้องตั้งแต่วันที่ 1 - 20 กุมภาพันธ์ พบว่ามีการออกใบสั่งไปทั้งหมดจำนวนกว่า 31,264 ราย ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าประชาชนเริ่มตื่นตัวและเดินทางเข้ามาชำระค่าปรับกับทาง สน. พื้นที่ที่ออกใบสั่งและจ่ายค่าปรับผ่านทางธนาคารอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวไม่ได้ต้องการทำยอดใบสั่งให้ได้จำนวนมาก แต่เน้นการลดการกระทำความผิดของประชาชนลง แม้ว่าจะไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนควบคุม
ส่วนกรณีที่มูลนิธิเมาไม่ขับมีข้อเสนอให้รถยนต์ทุกคันติดกล้องหน้ารถ ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลเห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว เพราะหากเกิดเหตุก็จะเป็นหลักฐานช่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสอบสวนได้ง่ายขึ้น ทั้งเรื่องอาชญากรรมและเรื่องการทำผิดกฎหมายจราจร ซึ่งที่ผ่านมามีหลายคดีและหลายเหตุการณ์ที่สามารถคลี่คลายลงได้เพราะกล้องหน้ารถ ดังนั้น ในอนาคตต่อไปหากรถยนต์ทุกคันมีกล้อง ก็จะถือว่าช่วยเป็นหูเป็นตาในการทำงานของเจ้าหน้าที่
ส่วนกรณีที่มูลนิธิเมาไม่ขับมีข้อเสนอให้รถยนต์ทุกคันติดกล้องหน้ารถ ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลเห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว เพราะหากเกิดเหตุก็จะเป็นหลักฐานช่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสอบสวนได้ง่ายขึ้น ทั้งเรื่องอาชญากรรมและเรื่องการทำผิดกฎหมายจราจร ซึ่งที่ผ่านมามีหลายคดีและหลายเหตุการณ์ที่สามารถคลี่คลายลงได้เพราะกล้องหน้ารถ ดังนั้น ในอนาคตต่อไปหากรถยนต์ทุกคันมีกล้อง ก็จะถือว่าช่วยเป็นหูเป็นตาในการทำงานของเจ้าหน้าที่