วันนี้ (21 ก.พ.) นายปราเมศ เหล็กเพ็ชร์ อุปนายกฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย แถลงกรณีที่สำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ออกประกาศห้ามสื่อมวลชนบางสำนักเข้าพื้นที่วัดพระธรรมกาย เนื่องจากสถานการณ์ที่มีความอ่อนไหว ว่า สมาคมนักข่าวฯ ได้ตระหนักถึงหน้าที่ความรับผิดชอบของสื่อมวลชน ที่ต้องรายงานข้อเท็จจริงอย่างถูกต้อง ครบถ้วน และรอบด้าน ถึงกระนั้นก็อาจมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนในการทำหน้าที่ดังกล่าว โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีความแตกต่างทางความคิด ความเชื่อเช่นนี้ ซึ่งสื่อต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษในการรายงานข่าวโดยไม่ลำเอียง และปราศจากอคติ
นายปราเมศ กล่าวว่า ในการรายงานข่าวสถานการณ์วัดพระธรรมกาย ที่อาจมีประเด็นความเห็นที่แตกต่าง มีความขัดแย้งในทางความคิดของคนในสังคม แต่ในการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน สื่อมวลชนย่อมมิใช่คู่ขัดแย้งของฝ่ายใด สื่อมวลชนมีหน้าที่เพียงแต่รายงานข่าวตามวิชาชีพเท่านั้น สมาคมนักข่าวฯ ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายได้เคารพบทบาทหน้าที่ซึ่งกันและกัน และแสวงหาหนทางที่จะคลี่คลายวิกฤติด้วยสันติวิธี
ในนามของสมาคมนักข่าวฯ มีความห่วงใยในสวัสดิภาพของเพื่อนนักข่าว ที่กำลังรายงานข่าวอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากสถานการณ์มีความอ่อนไหว มีแนวโน้มในการใช้ความรุนแรง ดังนั้น นักข่าวพึงต้องระมัดระวังในสวัสดิภาพของตัวเองไปพร้อมกับการทำหน้าที่ตามวิชาชีพอย่างเคร่งครัดในหลักการต่อไป
นายปราเมศ กล่าวว่า ในการรายงานข่าวสถานการณ์วัดพระธรรมกาย ที่อาจมีประเด็นความเห็นที่แตกต่าง มีความขัดแย้งในทางความคิดของคนในสังคม แต่ในการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน สื่อมวลชนย่อมมิใช่คู่ขัดแย้งของฝ่ายใด สื่อมวลชนมีหน้าที่เพียงแต่รายงานข่าวตามวิชาชีพเท่านั้น สมาคมนักข่าวฯ ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายได้เคารพบทบาทหน้าที่ซึ่งกันและกัน และแสวงหาหนทางที่จะคลี่คลายวิกฤติด้วยสันติวิธี
ในนามของสมาคมนักข่าวฯ มีความห่วงใยในสวัสดิภาพของเพื่อนนักข่าว ที่กำลังรายงานข่าวอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากสถานการณ์มีความอ่อนไหว มีแนวโน้มในการใช้ความรุนแรง ดังนั้น นักข่าวพึงต้องระมัดระวังในสวัสดิภาพของตัวเองไปพร้อมกับการทำหน้าที่ตามวิชาชีพอย่างเคร่งครัดในหลักการต่อไป