จากกรณีแพขยะที่ลอยพบเป็นแนวยาวในทะเลจังหวัดชุมพร และเคลื่อนตัวมายังบริเวณด้านหลังของเกาะทะลุ อำเภอบางสะพานน้อย และอำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และเกิดกระแสลมเปลี่ยนทิศทำให้แนวแพขยะแตกออกจากกัน และกระจานเป็นบริเวณกว้างอยู่ในท้องทะเล ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ลงไปดำเนินการแก้ปัญหาและจัดเก็บขยะในทะเล ตั้งแต่เช้าวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาโดยมีนายโสภณ ทองดี รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พร้อมเรือทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 808 และเรือสปีดโบ๊ทอีก 3 ลำ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ทั้งฝ่ายปกครอง เทศบาล อบต.และชาวประมง ตลอดจนผู้ประกอบการน้ำเที่ยว ได้ร่วมกันดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ใช้วิธีการลาดอวนเก็บขยะได้เพียงส่วนหนึ่งระหว่างวันที่ 10-11 กุมภาพันธ์ และได้ขยะเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น
ทั้งนี้ตามแผนของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่วางไว้ จะใช้ระยะเวลา 10 วันในการดำเนินการ แต่ปรากฏว่าในวันที่ 12 เป็นต้นมาถึงวันนี้ กรมอุตินิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือนมีคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย และมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ทำให้ทางเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราวเนื่องจากคลื่นลมแรงเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่ โดยในช่วงที่มีคลื่นกระแสลมแรงในทะเล หรือที่ชาวประมงเรียกว่าลมว่าวในช่วง 3 วันที่ผ่านมา คลื่นลมได้พัดพาเศษขยะต่างๆ ทั้งเศษขยะต่างๆ ทั้งจากธรรมชาติและพลาสติก โฟม และลูกมะพร้าว ข้าวของจากบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วม ได้ถูกคลื่นซัดกลับเข้ามายังชายฝั่งในหลายพื้นที่ทั้งบริเวณชายหาดในพื้นที่อำเภอบางสะพาน และอำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
อย่างไรก็ตาม นายโสภณ ทองดี รองอธิบดรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า เศษขยะต่างๆ ที่ลอยอยู่ในทะเลนั้นทั้งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และแนวปะการังทั้งบริเวณเกาะทะลุ และสัตว์น้ำต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเต่าทะเลที่พบเสียชีวิตจากการผ่าพิสูจน์พบกินเศษถงพลาสติกเข้าไป ซึ่งถึงแม้จะเกิดคลื่นและกระแสลมแรงก็ตาม แต่ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่พบว่ามีเศษขยะลอย และจมเข้าติดในแนวปะการังที่เกาะทะลุแต่อย่างใด
ทั้งนี้ตามแผนของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่วางไว้ จะใช้ระยะเวลา 10 วันในการดำเนินการ แต่ปรากฏว่าในวันที่ 12 เป็นต้นมาถึงวันนี้ กรมอุตินิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือนมีคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย และมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ทำให้ทางเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราวเนื่องจากคลื่นลมแรงเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่ โดยในช่วงที่มีคลื่นกระแสลมแรงในทะเล หรือที่ชาวประมงเรียกว่าลมว่าวในช่วง 3 วันที่ผ่านมา คลื่นลมได้พัดพาเศษขยะต่างๆ ทั้งเศษขยะต่างๆ ทั้งจากธรรมชาติและพลาสติก โฟม และลูกมะพร้าว ข้าวของจากบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วม ได้ถูกคลื่นซัดกลับเข้ามายังชายฝั่งในหลายพื้นที่ทั้งบริเวณชายหาดในพื้นที่อำเภอบางสะพาน และอำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
อย่างไรก็ตาม นายโสภณ ทองดี รองอธิบดรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า เศษขยะต่างๆ ที่ลอยอยู่ในทะเลนั้นทั้งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และแนวปะการังทั้งบริเวณเกาะทะลุ และสัตว์น้ำต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเต่าทะเลที่พบเสียชีวิตจากการผ่าพิสูจน์พบกินเศษถงพลาสติกเข้าไป ซึ่งถึงแม้จะเกิดคลื่นและกระแสลมแรงก็ตาม แต่ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่พบว่ามีเศษขยะลอย และจมเข้าติดในแนวปะการังที่เกาะทะลุแต่อย่างใด