นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ในวันนี้กระทรวงคมนาคมได้หารือร่วมกับ พล.อ.ท. จเรศักดิ์ อานุภาพ ประธานคณะกรรมาธิการคมนาคม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการต่างๆ ของกระทรวงคมนาคม โดยในที่ประชุมฯ กระทรวงคมนาคมได้เสนอยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทย ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) และแผนพัฒนาคมนาคมขนส่ง ระยะ 5 ปี พ.ศ. 2560 – 2564 ซึ่งมุ่งเน้นการปรับโครงสร้างคมนาคมขนส่งจากระบบถนนสู่ระบบรางให้มากขึ้น
โดยแผนดำเนินงานในปี 2560 กระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอโครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพที่ยังเหลืออีก 4 เส้นทาง เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พร้อมทั้งผลักดันโครงการรถไฟทางคู่อีก 9 เส้นทาง และโครงการรถไฟระหว่างเมือง ให้เดินหน้าต่อไป ซึ่งจะทำให้สัดส่วนการขนส่งทางรางเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 75 จากเดิมที่อยู่ที่ร้อยละ 8 เท่านั้น
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการคมนาคม สนช.ให้กระทรวงคมนาคมจัดทำระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ ให้เชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้า เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรในกรุงเทพมหานคร และลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวในเขตเมือง โดยให้นำโครงการสาทรโมเดลมาเป็นต้นแบบใช้กับพื้นที่อื่นๆ ในกรุงเทพมหานคร รวมทั้งก่อสร้างจุดจอดรถ 5 แห่งทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางดำเนินการ
ส่วนการขนส่งสินค้าทางน้ำ สนช.ได้เสนอให้กระทรวงคมนาคม ขยายพื้นที่ท่าเรือเพื่อรองรับการขยายตัวของการขนส่งสินค้า พร้อมทั้งปฏิรูปกฎหมายด้านการเดินอากาศ และพระราชบัญญัติรถยนต์ ให้กรมการขนส่งมีอำนาจในการบังคับใช้กฎหมายให้เข้มงวดมากขึ้น
โดยแผนดำเนินงานในปี 2560 กระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอโครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพที่ยังเหลืออีก 4 เส้นทาง เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พร้อมทั้งผลักดันโครงการรถไฟทางคู่อีก 9 เส้นทาง และโครงการรถไฟระหว่างเมือง ให้เดินหน้าต่อไป ซึ่งจะทำให้สัดส่วนการขนส่งทางรางเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 75 จากเดิมที่อยู่ที่ร้อยละ 8 เท่านั้น
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการคมนาคม สนช.ให้กระทรวงคมนาคมจัดทำระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ ให้เชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้า เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรในกรุงเทพมหานคร และลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวในเขตเมือง โดยให้นำโครงการสาทรโมเดลมาเป็นต้นแบบใช้กับพื้นที่อื่นๆ ในกรุงเทพมหานคร รวมทั้งก่อสร้างจุดจอดรถ 5 แห่งทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางดำเนินการ
ส่วนการขนส่งสินค้าทางน้ำ สนช.ได้เสนอให้กระทรวงคมนาคม ขยายพื้นที่ท่าเรือเพื่อรองรับการขยายตัวของการขนส่งสินค้า พร้อมทั้งปฏิรูปกฎหมายด้านการเดินอากาศ และพระราชบัญญัติรถยนต์ ให้กรมการขนส่งมีอำนาจในการบังคับใช้กฎหมายให้เข้มงวดมากขึ้น