พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน (กขบ.) คณะที่ 5 ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมมีการหารือเกี่ยวกับการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวทั้งระบบ ว่า ที่ผ่านมาแรงงานต่างด้าวได้เดินทางเข้าออกหมุนเวียนในประเทศอย่างไม่มีการควบคุม กว่า 2.63 ล้านคน ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาด้านความมั่นคง และสาธารณสุข โดยที่ประชุมได้มุ่งเน้นที่จะจัดระเบียบกลุ่มแรงงานต่างด้าวทั้งระบบให้มีการขึ้นทะเบียนแรงงานอย่างถูกต้อง รวมถึงมีการจัดโซนนิ่งแรงงานต่างด้าว ซึ่งเริ่มต้นในพื้นที่นำร่อง จ.สมุทรสาคร และระนอง พร้อมตั้งเป้าไม่ให้มีแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายอยู่ในไทย ภายในปี 2565
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน ว่าจะมีการทำหนังสือให้ ICAO เข้ามาตรวจความพร้อมในการแก้ไขปัญหาของไทยภายในเดือน กันยายนนี้ ซึ่งมีหลายประเด็นที่ต้องเตรียมการตรวจสอบ ทั้งการร่าง พ.ร.บ.การบินพลเรือน การร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ความชัดเจนเกี่ยวกับหน่วยงานที่ควบคุมการบินพลเรือน รวมถึงความปลอดภัยของสนามบิน โดยตั้งเป้าว่าจะสามารถปลดธงแดงได้ภายในปีนี้
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมยังได้กล่าวถึงมาตรการแก้ปัญหารถตู้สาธารณะ ซึ่งจะต้องยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยให้ได้ก่อนถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยย้ำว่ารถตู้สาธารณะทุกคนจะต้องผ่านการตรวจเช็กสภาพรถ รวมถึงติดตั้งเครื่องตรวจจับความเร็ว และระบบ GPS ให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม ไม่เช่นนั้นจะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินรถในช่วงสงกรานต์
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ที่ผ่านมารัฐบาลมุ่งมั่นตั้งใจในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหา การปฏิรูป ซึ่งถือเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ และทุกคน จะต้องให้ความร่วมมือในการขับเคลื่อนไปด้วยกันเพื่อให้ประเทศสามารถเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน ว่าจะมีการทำหนังสือให้ ICAO เข้ามาตรวจความพร้อมในการแก้ไขปัญหาของไทยภายในเดือน กันยายนนี้ ซึ่งมีหลายประเด็นที่ต้องเตรียมการตรวจสอบ ทั้งการร่าง พ.ร.บ.การบินพลเรือน การร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ความชัดเจนเกี่ยวกับหน่วยงานที่ควบคุมการบินพลเรือน รวมถึงความปลอดภัยของสนามบิน โดยตั้งเป้าว่าจะสามารถปลดธงแดงได้ภายในปีนี้
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมยังได้กล่าวถึงมาตรการแก้ปัญหารถตู้สาธารณะ ซึ่งจะต้องยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยให้ได้ก่อนถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยย้ำว่ารถตู้สาธารณะทุกคนจะต้องผ่านการตรวจเช็กสภาพรถ รวมถึงติดตั้งเครื่องตรวจจับความเร็ว และระบบ GPS ให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม ไม่เช่นนั้นจะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินรถในช่วงสงกรานต์
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ที่ผ่านมารัฐบาลมุ่งมั่นตั้งใจในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหา การปฏิรูป ซึ่งถือเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ และทุกคน จะต้องให้ความร่วมมือในการขับเคลื่อนไปด้วยกันเพื่อให้ประเทศสามารถเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี