พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง นายสุภัฒ สงวนดีกุล รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กรณีมีมูลที่ควรกล่าวหาว่ากระทำความผิดวินัยร้ายแรง หลังก่อคดีขโมยภาพวาดในโรงแรม ขณะเดินทางไปราชการที่ประเทศญี่ปุ่น ผลการสืบสวนข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่านายสุภัฒได้ลักทรัพย์ ซึ่งเป็นภาพวาดของโรงแรมบริเวณชั้น 9-10
โดยนายสุภัฒ รับสารภาพต่อพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ และศาลประเทศญี่ปุ่น ต่อมาโรงแรมผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ เนื่องจากผู้ก่อเหตุสำนึกผิด ยอมรับตามข้อกล่าวหาพร้อมชดใช้ค่าเสียหาย ขณะเดียวกันอัยการญี่ปุ่นใช้อำนาจตามกฎหมายอาญาของญี่ปุ่น มาตรา 248 พิจารณาสั่งไม่ฟ้องคดีและมีคำสั่งปล่อยตัว
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์เห็นว่า นายสุภัฒเป็นข้าราชการกระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ ควรมีวุฒิภาวะในการกระทำด้วยความรอบคอบสูงกว่าข้าราชการชั้นผู้น้อย หรือคนทั่วไป ผลของการกระทำดังกล่าวสร้างความเสียหายต่อระบบราชการ และภาพลักษณ์ของประเทศอย่างร้ายแรง น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมลักษณ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ จึงมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดวินัยน้ายแรง ตามระเบียบข้าราชการพลเรือน โดยมีคณะกรรมการ 5 คนประกอบด้วย พ.ต.อ.ดุษฎี น.ส.เรวดี วีระวุฒิผล นายวินัย นิโครวนจำรัส นายพิทักษ์ มิ่งสุข และ น.ส.สุจริต จันทร์เพ็ง
พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าการลาออกของนายสุภัฒมีผลเป็นทางการหรือไม่ แต่ไม่ว่าจะลาออกหรือไม่ นายสุภัฒก็ต้องเข้าให้การต่อคณะกรรมการฯ ถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เนื่องจากคำให้การจะมีผลต่อการพิจารณาบำเหน็จ บำนาญ อาจจะเป็นการให้ปากคำด้วยวาจา หรือส่งเป็นเอกสารคำให้การก็ได้ เบื้องต้นแม้กรณีดังกล่าวจะสร้างความเสียหายให้กับภาพลักษณ์ของประเทศ แต่ยืนยันจะให้ความเป็นธรรม คณะกรรมการฯ จึงจำเป็นต้องขอดูหลักฐานทั้งหมด หากทำผิดเพราะอาการป่วยต้องมีใบรับรองแพทย์และเอกสารการรักษา หากอ้างว่าทำผิดเพราะมึนเมาสุราก็ต้องมีพยานมายืนยัน ซึ่งการสอบสวนเรื่องนี้จะได้ข้อยุติภายใน 1 เดือนเศษ โดยหลักฐานที่จะนำมาพิจารณาเป็นหลักคือผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ซึ่งมีเป็นจำนวนมาก โดยการประชุมครั้งต่อไปภายในสัปดาห์นี้จะกำหนดแนวทางการสอบสวนพร้อมตรวจสอบว่ายังขาดหลักฐานอะไรอีกหรือไม่ หากครบองค์ประกอบความผิดจะแจ้งข้อหาทันที เพื่อเรียกนายสุภัฒมาชี้แจงภายใน 15 วัน
โดยนายสุภัฒ รับสารภาพต่อพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ และศาลประเทศญี่ปุ่น ต่อมาโรงแรมผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ เนื่องจากผู้ก่อเหตุสำนึกผิด ยอมรับตามข้อกล่าวหาพร้อมชดใช้ค่าเสียหาย ขณะเดียวกันอัยการญี่ปุ่นใช้อำนาจตามกฎหมายอาญาของญี่ปุ่น มาตรา 248 พิจารณาสั่งไม่ฟ้องคดีและมีคำสั่งปล่อยตัว
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์เห็นว่า นายสุภัฒเป็นข้าราชการกระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ ควรมีวุฒิภาวะในการกระทำด้วยความรอบคอบสูงกว่าข้าราชการชั้นผู้น้อย หรือคนทั่วไป ผลของการกระทำดังกล่าวสร้างความเสียหายต่อระบบราชการ และภาพลักษณ์ของประเทศอย่างร้ายแรง น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมลักษณ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ จึงมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดวินัยน้ายแรง ตามระเบียบข้าราชการพลเรือน โดยมีคณะกรรมการ 5 คนประกอบด้วย พ.ต.อ.ดุษฎี น.ส.เรวดี วีระวุฒิผล นายวินัย นิโครวนจำรัส นายพิทักษ์ มิ่งสุข และ น.ส.สุจริต จันทร์เพ็ง
พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าการลาออกของนายสุภัฒมีผลเป็นทางการหรือไม่ แต่ไม่ว่าจะลาออกหรือไม่ นายสุภัฒก็ต้องเข้าให้การต่อคณะกรรมการฯ ถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เนื่องจากคำให้การจะมีผลต่อการพิจารณาบำเหน็จ บำนาญ อาจจะเป็นการให้ปากคำด้วยวาจา หรือส่งเป็นเอกสารคำให้การก็ได้ เบื้องต้นแม้กรณีดังกล่าวจะสร้างความเสียหายให้กับภาพลักษณ์ของประเทศ แต่ยืนยันจะให้ความเป็นธรรม คณะกรรมการฯ จึงจำเป็นต้องขอดูหลักฐานทั้งหมด หากทำผิดเพราะอาการป่วยต้องมีใบรับรองแพทย์และเอกสารการรักษา หากอ้างว่าทำผิดเพราะมึนเมาสุราก็ต้องมีพยานมายืนยัน ซึ่งการสอบสวนเรื่องนี้จะได้ข้อยุติภายใน 1 เดือนเศษ โดยหลักฐานที่จะนำมาพิจารณาเป็นหลักคือผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ซึ่งมีเป็นจำนวนมาก โดยการประชุมครั้งต่อไปภายในสัปดาห์นี้จะกำหนดแนวทางการสอบสวนพร้อมตรวจสอบว่ายังขาดหลักฐานอะไรอีกหรือไม่ หากครบองค์ประกอบความผิดจะแจ้งข้อหาทันที เพื่อเรียกนายสุภัฒมาชี้แจงภายใน 15 วัน