กต.ประสานสถานทูตฯ ติดตามบุคคลหมิ่นสถาบันในลาว

แหล่งข่าวกระทรวงการต่างประเทศระดับสูง เปิดเผยว่า กระทรวงได้ประสานให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียงจันทน์ และสถานกงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต ได้การติดตามกลุ่มบุคคลที่หมิ่นสถาบันฯ ผ่านโซเชียลมีเดียใน สปป.ลาว ตามนโยบายรัฐบาลที่เคยพูดไว้ ซึ่งไทยได้ทำสนธิสัญญาเพื่อการส่งผู้ร้ายข้ามแดนไว้กับ สปป.ลาว ส่วนความคืบหน้าการประสานขอผู้กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กลับมาดำเนินคดีในไทยนั้น คงต้องปล่อยให้แต่ละประเทศดำเนินการด้วยวิธีการของแต่ละประเทศเอง
ส่วนการดำเนินการเอาผิดกับบุคคลที่เข้าข่ายข่มขู่คุกคามผู้อื่นนั้น กระทรวงการต่างประเทศจะต้องได้รับการประสานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจะดำเนินการต่างๆ ได้หลังจากที่ศาลได้อนุมัติออกหมายจับแล้ว โดยจะต้องระบุที่อยู่ของผู้ที่ออกหมายจับให้ชัดเจน เพื่อสถานทูตจะได้ดำเนินการได้ทันที
อย่างไรก็ตาม การขอตัวผู้ร้ายข้ามแดนตามสนธิสัญญาฯ จะต้องดูฐานความผิดว่า ถึงขนาดที่จะนำมาซึ่งการส่งตัวข้ามแดนหรือไม่นั้น โดยหลักการแล้ว ต้องเป็นความผิดทางอาญาที่มีโทษทางตามกฎหมายให้ลงโทษประหารชีวิต จำคุก หรือทำให้ปราศจากเสรีภาพเป็นระยะเวลาเกินกว่า 1 ปี ตามกฎหมายทั้งในประเทศผู้ร้องขอให้ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน และประเทศผู้รับคำร้องขอ และความผิดนั้นจะต้องไม่ขาดอายุความตามกฎหมายของประเทศที่ร้องขอ ประการสำคัญคือความผิดนั้นต้องไม่ใช่ความผิดทางการเมือง หรือความผิดที่เกี่ยวกับศาสนา โดยการดำเนินการจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับนโยบายของประเทศนั้นๆ ที่ผู้กระทำผิดหนีไปพำนักด้วย มีข้อสังเกตว่า ต้องดูกฎหมายของประเทศนั้นๆ ด้วย หากผู้ต้องหาที่ไทยขอตัวเพื่อมาลงโทษ กระทำความผิดในเรื่องที่ประเทศนั้นๆ สามารถทำได้หรือไม่ใช่เรื่องใหญ่โต จะมีผลต่อการดำเนินงานประสานเพื่อขอตัวด้วย