นายศรีราชา วงศารยางกูร อดีตประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ยอมรับว่า รู้สึกแปลกใจกับข้อเสนอระหว่าง สตง.และกระทรวงการคลัง ที่เสนอมติการหารือร่วมกันกรณีท่อก๊าซ ปตท. ที่ล่าสุดส่งไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี แสดงถึงตัวเลขทางบัญชีจำนวน 3.2 หมื่นล้านบาท พร้อมเปลี่ยนสัญญาเป็นสัญญาเช่าซื้อที่ ปตท.จะต้องจ่ายค่าเช่าย้อนหลัง โดยรัฐจะได้เงินเข้าคงคลังเพียง 1,000 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งจากการตรวจสอบของสำนักผู้ตรวจการแผ่นดิน อย่างละเอียดกว่า 1 ปีที่ผ่านมาพบว่า ตัวเลขทางบัญชีที่ระบุไว้สูงถึง 6.8 หมื่นล้านบาท
ดังนั้นจึงอยากให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอย่างละเอียด เพราะเชื่อว่าหากรัฐบาลพิจารณาตามข้อเสนอของ สตง. และกระทรวงการคลัง จะส่งผลให้กรณีของท่อก๊าซ ปตท.สิ้นสุดลง โดยที่รัฐเกิดความสูญหาย ประเทศเกิดความสูญเสีย
นายศรีราชา ยังกล่าวด้วยว่า ประเทศมีความโชคร้ายที่ได้ผู้บริหารของ ปตท.ที่ขาดจริยธรรม และคุณธรรม โดยหวังแต่ผลประโยชน์ของพวกพ้องและส่วนตน โดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศ รวมไปถึงเจ้าหน้าที่สตง.และกระทรวงการคลังที่เชื่อว่าอาจจะมีการสมยอมผลประโยชน์ร่วมกัน
ดังนั้นจึงอยากให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอย่างละเอียด เพราะเชื่อว่าหากรัฐบาลพิจารณาตามข้อเสนอของ สตง. และกระทรวงการคลัง จะส่งผลให้กรณีของท่อก๊าซ ปตท.สิ้นสุดลง โดยที่รัฐเกิดความสูญหาย ประเทศเกิดความสูญเสีย
นายศรีราชา ยังกล่าวด้วยว่า ประเทศมีความโชคร้ายที่ได้ผู้บริหารของ ปตท.ที่ขาดจริยธรรม และคุณธรรม โดยหวังแต่ผลประโยชน์ของพวกพ้องและส่วนตน โดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศ รวมไปถึงเจ้าหน้าที่สตง.และกระทรวงการคลังที่เชื่อว่าอาจจะมีการสมยอมผลประโยชน์ร่วมกัน