ที่สํานักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พระพุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม พร้อมทนายความ นำหลักฐานโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ "ลูกปลูกป่าให้พ่อ" เข้าพบ พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล ผู้บัญชาการสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ดีเอสไอ เพื่อให้ปากคำกรณี คณะศิษยานุศิษย์วัด พระธรรมกาย แจ้งความดำเนินคดี พระพุทธะอิสระ ฐานบุกรุกที่ป่าสงวน บ้านใหม่วังผาปูน ต.แม่วิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ เนื้อที่ประมาณ 300 ไร่
พระพุทธอิสระ เปิดเผยหลังให้ปากคำเสร็จสิ้นว่า วันนี้มาชี้แจงกับพนักงานสอบสวนดีเอสไอว่า ไม่ได้ถือครอบครองที่ดินดังกล่าว และยังได้รับความร่วมมือจาก ป่าไม้จังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) หัวหน้าหน่วยราชการ ชาวบ้านในท้องถิ่น ช่วยกันปลูกป่ากันชน เมื่อประมาณ 3-4 ปีมาแล้ว เพื่อไม่ให้ชาวบ้านเข้าไปบุกรุกเพิ่มเติม กระทั่งขณะนี้ป่าไม้เขียวขจี พร้อมมีการตั้งงบประมาณดูแลรักษาต่อไป ส่วนโครงการปลูกป่าของ พระพุทธะอิสระ ดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2526 จนถึงปัจจุบัน และปลูกป่ามา 10 กว่าจังหวัดแล้ว โดยริเริ่มจากการสร้างโรงเรียนแล้วพบปัญหาภูเขาไม่มีป่าไม้และน้ำใช้ จึงช่วยกันก่อตั้งโครงการปลูกป่าร่วมกับหน่วยงานรัฐทำป่ากันชน ไม่เคยหวังไปยึดครอบครองแต่อย่างใด
พระพุทธะอิสระ กล่าวว่า การร้องทุกข์ของคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย คาดว่าหาเหตุผลเพื่อให้พระพุทธะอิสระ ได้รับความเสียหายในประเด็นสิ่งปลูกสร้าง เพราะมีชาวบ้านไปสร้างขนำ หรือกระท่อมชั่วคราว เอาไว้ในที่ดิน เพื่อป้องกันแดดออก หรือฝนตกเมื่อเวลาไปเฝ้าไร่ แต่บันทึกของป่าไม้เดิมเขียนว่า เป็นกุฏิ ไม่ได้เขียนว่าขนำ ซึ่งมันมีความแตกต่างกัน และดีเอสไอลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว ถือเป็นเรื่องดีเพราะได้มาอธิบายแก่สังคม ช่วยให้พิสูจน์ตัวเองด้วยว่า พร้อมจะชี้แจงทุกหน่วยงานราชการ ทั้งนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการสืบสวนข้อมูลว่า จะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่
พระพุทธอิสระ เปิดเผยหลังให้ปากคำเสร็จสิ้นว่า วันนี้มาชี้แจงกับพนักงานสอบสวนดีเอสไอว่า ไม่ได้ถือครอบครองที่ดินดังกล่าว และยังได้รับความร่วมมือจาก ป่าไม้จังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) หัวหน้าหน่วยราชการ ชาวบ้านในท้องถิ่น ช่วยกันปลูกป่ากันชน เมื่อประมาณ 3-4 ปีมาแล้ว เพื่อไม่ให้ชาวบ้านเข้าไปบุกรุกเพิ่มเติม กระทั่งขณะนี้ป่าไม้เขียวขจี พร้อมมีการตั้งงบประมาณดูแลรักษาต่อไป ส่วนโครงการปลูกป่าของ พระพุทธะอิสระ ดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2526 จนถึงปัจจุบัน และปลูกป่ามา 10 กว่าจังหวัดแล้ว โดยริเริ่มจากการสร้างโรงเรียนแล้วพบปัญหาภูเขาไม่มีป่าไม้และน้ำใช้ จึงช่วยกันก่อตั้งโครงการปลูกป่าร่วมกับหน่วยงานรัฐทำป่ากันชน ไม่เคยหวังไปยึดครอบครองแต่อย่างใด
พระพุทธะอิสระ กล่าวว่า การร้องทุกข์ของคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย คาดว่าหาเหตุผลเพื่อให้พระพุทธะอิสระ ได้รับความเสียหายในประเด็นสิ่งปลูกสร้าง เพราะมีชาวบ้านไปสร้างขนำ หรือกระท่อมชั่วคราว เอาไว้ในที่ดิน เพื่อป้องกันแดดออก หรือฝนตกเมื่อเวลาไปเฝ้าไร่ แต่บันทึกของป่าไม้เดิมเขียนว่า เป็นกุฏิ ไม่ได้เขียนว่าขนำ ซึ่งมันมีความแตกต่างกัน และดีเอสไอลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว ถือเป็นเรื่องดีเพราะได้มาอธิบายแก่สังคม ช่วยให้พิสูจน์ตัวเองด้วยว่า พร้อมจะชี้แจงทุกหน่วยงานราชการ ทั้งนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการสืบสวนข้อมูลว่า จะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่