บรรยากาศในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพเป็นวันที่ 91 ในวันนี้ (1 ก.พ.) ตลอดทั้งวันยังคงมีประชาชนจากทั่วทุกสารทิศ ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อาทิ จ.เพชรบูรณ์, นครราชสีมา, ปัตตานี ต่างแต่งกายด้วยชุดดำเรียบร้อยจำนวนมาก เดินทางมาต่อแถวอย่างเป็นระเบียบเพื่อขึ้นสู่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยเจ้าหน้าที่ได้เปิดประตูให้ประชาชนเดินแถวเข้าตั้งแต่เวลา 04.50 น.ก่อนเปลี่ยนเข้าทางประตูมณีนพรัตน์ ถนนหน้าพระลาน เวลา 08.30 น. เพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทางประตูวิเศษไชยศรี
นางไพรินทร์ แจ้งภูเขียว อายุ 50 ปี เดินทางมาจากจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วยญาติๆ รวมทั้งหมด 7 คน โดยเช่ารถตู้ออกเดินทางมาตั้งแต่เวลา 06.00 น. เมื่อมาถึงบริเวณสนามหลวงรอไม่นานนักได้เข้ากราบสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ พร้อมตั้งจิตขอให้พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จสู่สวรรคาลัย ส่วนตัวเองจะขอคิดดี ทำดี และเป็นประชาชนที่ดีของประเทศ
ด้าน นายเอกอนันต์ ดอกม่วง หัวหน้าอาจารย์ประจำแผนกช่างยนต์ วิทยาลัยการอาชีพปากช่อง จ.นครราชสีมา นำคณะนักเรียนชั้น ปวช.ปี 3 แผนนกช่างยนต์ จำนวน 45 คนและคณะครูรวม 5 คน มากราบสักการะพระบรมศพ โดยออกเดินทางด้วยรถทัวร์ตั้งแต่เวลา 04.00น.มาถึงบริเวณสนามหลวงประมาณ 8.30น.และได้ขึ้นไปกราบพระบรมศพประมาณ 10.00น.
ขณะที่นายศราวุธ ผูกแก้ว อายุ 18 ปี นักศึกษาชั้น ปวช.ปี 3 วิทยาลัยการอาชีพปากช่อง เปิดเผยว่า ไม่เคยมีโอกาสรับเสด็จฯ พระองค์ท่านมาก่อนแต่เห็นการทรงงานผ่านทีวี เห็นว่าพระองค์ทรงงานมากมายเพื่อประชาชนคนไทย ตอนที่ขึ้นไปกราบสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศจึงได้ตั้งจิตอธิษฐานว่าหากชาติหน้ามีจริงจะขอเกิดเป็นข้ารองพระบาทพระองค์ท่านทุกชาติไป ส่วนในชาตินี้ขอน้อมนำแนวพระราชดำริของพระองค์มาใช้ในชีวิตประจำวัน โดยเน้นเรื่องการใช้จ่ายอย่างประหยัด ไม่ฟุ่มเฟือย และหากมีเหลือต้องเก็บออมด้วย
ส่วน 2 พยาบาลสาวจากโรงพยาบาลเอกชนย่านสุขุมวิท นางชัชชนก วัย 49 ปี และนาวสาวกิติยา สุวัณณะสังข์ วัย 42 ปี กล่าวว่า เคยมาต่อแถวกราบสักการะพระบรมศพแล้วครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนั้นคนเยอะมาก บวกกับมีภารกิจที่ต้องทำจึงไม่ได้รอเข้าไปกราบสักการะพระบรมศพ วันนี้จึงนัดกับเพื่อนมากันอีกครั้งหนึ่ง มาถึงเมื่อประมาณ 09.00น.รอประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น ได้เข้ากราบ ซึ่งถือว่าโชคดีมากๆ ตอนได้ขึ้นไปด้านบนพระที่นั่งดุสิตฯ ได้กราบและขอให้พระองค์ท่านให้เสด็จสู่สวรรคาลัย พระองค์เหนื่อยมามากแล้วขอให้ไปสู่ภพภูมิที่ดีไม่ต้องห่วงประชาชน
นางไพรินทร์ แจ้งภูเขียว อายุ 50 ปี เดินทางมาจากจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วยญาติๆ รวมทั้งหมด 7 คน โดยเช่ารถตู้ออกเดินทางมาตั้งแต่เวลา 06.00 น. เมื่อมาถึงบริเวณสนามหลวงรอไม่นานนักได้เข้ากราบสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ พร้อมตั้งจิตขอให้พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จสู่สวรรคาลัย ส่วนตัวเองจะขอคิดดี ทำดี และเป็นประชาชนที่ดีของประเทศ
ด้าน นายเอกอนันต์ ดอกม่วง หัวหน้าอาจารย์ประจำแผนกช่างยนต์ วิทยาลัยการอาชีพปากช่อง จ.นครราชสีมา นำคณะนักเรียนชั้น ปวช.ปี 3 แผนนกช่างยนต์ จำนวน 45 คนและคณะครูรวม 5 คน มากราบสักการะพระบรมศพ โดยออกเดินทางด้วยรถทัวร์ตั้งแต่เวลา 04.00น.มาถึงบริเวณสนามหลวงประมาณ 8.30น.และได้ขึ้นไปกราบพระบรมศพประมาณ 10.00น.
ขณะที่นายศราวุธ ผูกแก้ว อายุ 18 ปี นักศึกษาชั้น ปวช.ปี 3 วิทยาลัยการอาชีพปากช่อง เปิดเผยว่า ไม่เคยมีโอกาสรับเสด็จฯ พระองค์ท่านมาก่อนแต่เห็นการทรงงานผ่านทีวี เห็นว่าพระองค์ทรงงานมากมายเพื่อประชาชนคนไทย ตอนที่ขึ้นไปกราบสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศจึงได้ตั้งจิตอธิษฐานว่าหากชาติหน้ามีจริงจะขอเกิดเป็นข้ารองพระบาทพระองค์ท่านทุกชาติไป ส่วนในชาตินี้ขอน้อมนำแนวพระราชดำริของพระองค์มาใช้ในชีวิตประจำวัน โดยเน้นเรื่องการใช้จ่ายอย่างประหยัด ไม่ฟุ่มเฟือย และหากมีเหลือต้องเก็บออมด้วย
ส่วน 2 พยาบาลสาวจากโรงพยาบาลเอกชนย่านสุขุมวิท นางชัชชนก วัย 49 ปี และนาวสาวกิติยา สุวัณณะสังข์ วัย 42 ปี กล่าวว่า เคยมาต่อแถวกราบสักการะพระบรมศพแล้วครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนั้นคนเยอะมาก บวกกับมีภารกิจที่ต้องทำจึงไม่ได้รอเข้าไปกราบสักการะพระบรมศพ วันนี้จึงนัดกับเพื่อนมากันอีกครั้งหนึ่ง มาถึงเมื่อประมาณ 09.00น.รอประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น ได้เข้ากราบ ซึ่งถือว่าโชคดีมากๆ ตอนได้ขึ้นไปด้านบนพระที่นั่งดุสิตฯ ได้กราบและขอให้พระองค์ท่านให้เสด็จสู่สวรรคาลัย พระองค์เหนื่อยมามากแล้วขอให้ไปสู่ภพภูมิที่ดีไม่ต้องห่วงประชาชน