กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 4 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี สงขลา พัทลุง รวม 8 อำเภอ 49 ตำบล 395 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 34,919 ครัวเรือน จำนวน 104,350 คน โดย ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลัง และทรัพยากรเร่งสำรวจข้อมูลความเสียหายให้ครอบคลุมทุกด้าน ควบคู่กับการสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น รวมถึงฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
ทั้งนี้ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยถึง จากการคาดการณ์สภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนน้อย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้ประสานให้จังหวัดที่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยเร่งระบายน้ำ และผลักดันน้ำออกสู่ทะเล โดยให้คำนึงถึงปริมาณการใช้น้ำของประชาชนในพื้นที่ พร้อมสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง เพื่อให้มีน้ำอุปโภคบริโภคและการเกษตรอย่างเพียงพอ รวมถึงขอให้หน่วยปฏิบัติในพื้นที่บูรณาการการเคลื่อนย้ายกำลังคนและวัสดุอุปกรณ์จากพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายไปประจำจุดที่สถานการณ์ยังวิกฤต โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำที่มีสิ่งกีดขวางทางน้ำหรือสันดอนกลางน้ำ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำ และจำเป็นต้องใช้เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยในการแก้ไขปัญหา
ทั้งนี้ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยถึง จากการคาดการณ์สภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนน้อย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้ประสานให้จังหวัดที่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยเร่งระบายน้ำ และผลักดันน้ำออกสู่ทะเล โดยให้คำนึงถึงปริมาณการใช้น้ำของประชาชนในพื้นที่ พร้อมสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง เพื่อให้มีน้ำอุปโภคบริโภคและการเกษตรอย่างเพียงพอ รวมถึงขอให้หน่วยปฏิบัติในพื้นที่บูรณาการการเคลื่อนย้ายกำลังคนและวัสดุอุปกรณ์จากพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายไปประจำจุดที่สถานการณ์ยังวิกฤต โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำที่มีสิ่งกีดขวางทางน้ำหรือสันดอนกลางน้ำ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำ และจำเป็นต้องใช้เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยในการแก้ไขปัญหา