นายวัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงพื้นที่ตรวจจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ ย่านนวมินทร์ 99 ที่มีผู้เสียชีวิต 5 ศพ โดยนายวัลลภ ระบุว่า จากการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ดับเพลิงพบว่า ขณะเกิดเหตุไฟรุนแรงมาก จากบริเวณชั้นล่างขึ้นไปชั้นบน เจ้าหน้าที่จึงเร่งช่วยผู้ประสบเหตุ แต่การช่วยเหลือค่อนข้างยากลำบาก เนื่องจากอาคารมีลูกกรงล้อมรอบบริเวณชั้นที่ 3 แต่การติดตั้งลูกกรงเหล็กสามารถทำได้ เพื่อป้องกันทรัพย์สิน แต่ต้องคำนึงถึงกรณีเมื่อเกิดเหตุด้วย ส่วนที่มีผู้เสียชีวิตเนื่องจากอุปกรณ์ที่อยู่ในร้านเมื่อเกิดเพลิงไหม้ ทำให้เกิดควันจนเป็นอันตรายต่อระบบหายใจ และทำให้มีผู้เสียชีวิตดังกล่าว ทาง กทม.จึงประกาศให้อาคารดังกล่าวเป็นพื้นที่อันตราย พร้อมเตรียมประสานฝ่ายโยธาฯ และวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย(วสท.) เข้าตรวจสอบโครงสร้างในพื้นที่อีกครั้ง ส่วนกรณีที่ญาติกังวลในเรื่องทรัพย์สินที่อยู่ด้านบน ได้ให้เจ้าหน้าที่ประเมินสถานการณ์ ความแข็งแรงของอาคาร พร้อมให้ญาติสวมชุดเพื่อป้องกันความปลอดภัย
สำหรับมาตรการความปลอดภัยในอาคารสูง และอาคารขนาดใหญ่ในกรุงเทพฯ กทม.ได้มีมาตรการด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับการป้องกันอัคคีภัยในอาคารสูง และอาคารขนาดใหญ่ สำหรับอาคารที่สูงตั้งแต่ 6 ชั้นขึ้นไป และมีพื้นที่อาคารเกิน 2,000 ตารางเมตร ต้องมีผนังหรือประตูปิดกั้นไม่ให้เปลวไฟ หรือควันไฟเข้าไปในบริเวณบันไดหลักของอาคาร ประตูต้องทนไฟได้ไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง และมีวัสดุทนไฟปิดกั้นช่องท่อต่างๆ ระหว่างชั้นทุกชั้นของอาคาร อาคารควรออกแบบให้มีทางหนีไฟเบื้องต้น เส้นทางหนีไฟต้องมีความสูงไม่น้อยกว่า 2.3 เมตร ผิวทางเดินเป็นผิวต้านการลื่น และไม่ถูกกีดขวางจากส่วนต่างๆ ของโครงสร้างอาคาร ห้ามใช้ลิฟต์หรือบันไดเลื่อนในการหนีไฟ ประตูหนีไฟต้องมีความแตกต่างจากสิ่งก่อสร้างข้างเคียงให้สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน มีความกว้างไม่น้อยกว่า 0.8 เมตร สูงไม่น้อยกว่า 2 เมตร แบบบานเปิดที่มีบานพับอยู่ด้านข้างประตูสามารถเปิดได้โดยไม่ต้องใช้กุญแจ
ส่วนบริเวณทางเข้าบันไดหนีไฟ ควรมีป้ายบอกตำแหน่งชั้นและทางหนีไฟพร้อมไฟฉุกเฉินแสดงให้ชัดเจน และห้ามก่อสร้างเป็นบันไดเวียน ระบบสัญญาณเตือนภัยในอาคารที่สูงตั้งแต่ 3 ชั้นขึ้นไป ต้องติดตั้งระบบสัญญาณเตือนเพลิงไหม้ทุกชั้นในแต่ละยูนิต ส่วนอาคารสาธารณะที่มีพื้นที่มากกว่า 2,000 ตารางเมตร ต้องติดตั้งในทุกชั้นของอาคาร ระบบสัญญาณเตือนภัยประกอบด้วย Detector หรืออุปกรณ์แจ้งเหตุ ทั้งแบบแจ้งเหตุอัตโนมัติและแบบใช้มือ เพื่อให้กริ่งสัญญาณเตือนเพลิงไหม้ทำงาน เครื่องส่งสัญญาณเพลิงไหม้สามารถส่งเสียงหรือสัญญาณให้คนในอาคารได้ยิน ถังดับเพลิงแบบมือถือ ต้องติดตั้งอย่างน้อย 1 เครื่องทุก ๆ 1,000 ตารางเมตร ให้แต่ละเครื่องห่างกัน 45 เมตร ในตำแหน่งที่มองเห็นและเข้าถึงง่ายสะดวกต่อการใช้งาน รวมทั้งติดตั้งระบบไฟฟ้าสำรอง ในกรณีที่ระบบไฟฟ้าปกติขัดข้อง ซึ่งจะต้องจ่ายไฟฉุกเฉินได้ไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง
สำหรับมาตรการความปลอดภัยในอาคารสูง และอาคารขนาดใหญ่ในกรุงเทพฯ กทม.ได้มีมาตรการด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับการป้องกันอัคคีภัยในอาคารสูง และอาคารขนาดใหญ่ สำหรับอาคารที่สูงตั้งแต่ 6 ชั้นขึ้นไป และมีพื้นที่อาคารเกิน 2,000 ตารางเมตร ต้องมีผนังหรือประตูปิดกั้นไม่ให้เปลวไฟ หรือควันไฟเข้าไปในบริเวณบันไดหลักของอาคาร ประตูต้องทนไฟได้ไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง และมีวัสดุทนไฟปิดกั้นช่องท่อต่างๆ ระหว่างชั้นทุกชั้นของอาคาร อาคารควรออกแบบให้มีทางหนีไฟเบื้องต้น เส้นทางหนีไฟต้องมีความสูงไม่น้อยกว่า 2.3 เมตร ผิวทางเดินเป็นผิวต้านการลื่น และไม่ถูกกีดขวางจากส่วนต่างๆ ของโครงสร้างอาคาร ห้ามใช้ลิฟต์หรือบันไดเลื่อนในการหนีไฟ ประตูหนีไฟต้องมีความแตกต่างจากสิ่งก่อสร้างข้างเคียงให้สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน มีความกว้างไม่น้อยกว่า 0.8 เมตร สูงไม่น้อยกว่า 2 เมตร แบบบานเปิดที่มีบานพับอยู่ด้านข้างประตูสามารถเปิดได้โดยไม่ต้องใช้กุญแจ
ส่วนบริเวณทางเข้าบันไดหนีไฟ ควรมีป้ายบอกตำแหน่งชั้นและทางหนีไฟพร้อมไฟฉุกเฉินแสดงให้ชัดเจน และห้ามก่อสร้างเป็นบันไดเวียน ระบบสัญญาณเตือนภัยในอาคารที่สูงตั้งแต่ 3 ชั้นขึ้นไป ต้องติดตั้งระบบสัญญาณเตือนเพลิงไหม้ทุกชั้นในแต่ละยูนิต ส่วนอาคารสาธารณะที่มีพื้นที่มากกว่า 2,000 ตารางเมตร ต้องติดตั้งในทุกชั้นของอาคาร ระบบสัญญาณเตือนภัยประกอบด้วย Detector หรืออุปกรณ์แจ้งเหตุ ทั้งแบบแจ้งเหตุอัตโนมัติและแบบใช้มือ เพื่อให้กริ่งสัญญาณเตือนเพลิงไหม้ทำงาน เครื่องส่งสัญญาณเพลิงไหม้สามารถส่งเสียงหรือสัญญาณให้คนในอาคารได้ยิน ถังดับเพลิงแบบมือถือ ต้องติดตั้งอย่างน้อย 1 เครื่องทุก ๆ 1,000 ตารางเมตร ให้แต่ละเครื่องห่างกัน 45 เมตร ในตำแหน่งที่มองเห็นและเข้าถึงง่ายสะดวกต่อการใช้งาน รวมทั้งติดตั้งระบบไฟฟ้าสำรอง ในกรณีที่ระบบไฟฟ้าปกติขัดข้อง ซึ่งจะต้องจ่ายไฟฉุกเฉินได้ไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง