วันนี้ (25 ม.ค.) ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก นัดสืบพยานในคดีนายวิรพล สุขผล หรืออดีตพระวิรพล ฉัตติโก หรือหลวงปู่เณรคำ เพื่อให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน ตามความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยวันนี้เป็นการสืบพยานในฝ่ายผู้ร้อง คือ พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 ซึ่งพนักงานอัยการมีการเบิกพยานที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่ ปปง. กองปราบปราม รวมถึงผู้เสียหาย ขึ้นเบิกความ ยืนยันพฤติการณ์ของอดีตพระวิรพล ว่ามีพฤติการณ์หลอกหลวงประชาชน เช่น การจัดสร้างพระแก้วมรกตจำลององค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประดิษฐานที่วัดป่าขันติธรรม อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ด้วยหยกเขียวแท้จากอิตาลี มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท โดยมีญาติโยมบริจาคทุนทรัพย์ร่วมก่อสร้างจำนวนมาก แต่ในข้อเท็จจริงปรากฏว่า การสร้างดังกล่าวเป็นการสร้างด้วยผงเรซินผสมหินสีเขียว ไม่ได้มีการขออนุญาต และมูลค่าจริงก็ไม่เกิน 30 ล้านบาท ฯลฯ
ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ ศาลจะนัดสืบพยานฝ่ายผู้ร้องอีกครั้ง ในเวลา 09.00 น. ส่วนในวันที่ 15 และ 16 กุมภาพันธ์นี้ ได้นัดสืบพยานฝ่ายผู้คัดค้าน ซึ่งเป็นทนายของเจ้าของทรัพย์ รวมทั้งทนายของอดีตพระวิรพล รวม 8 คน
คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2556 คณะกรรมการธุรกรรม คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีมติให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินของอดีตพระวีรพล 31 รายการ มูลค่ากว่า 24 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ และที่ดินของอดีตพระวิรพล และคนที่เกี่ยวข้อง ตกเป็นของแผ่นดิน
ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ ศาลจะนัดสืบพยานฝ่ายผู้ร้องอีกครั้ง ในเวลา 09.00 น. ส่วนในวันที่ 15 และ 16 กุมภาพันธ์นี้ ได้นัดสืบพยานฝ่ายผู้คัดค้าน ซึ่งเป็นทนายของเจ้าของทรัพย์ รวมทั้งทนายของอดีตพระวิรพล รวม 8 คน
คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2556 คณะกรรมการธุรกรรม คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีมติให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินของอดีตพระวีรพล 31 รายการ มูลค่ากว่า 24 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ และที่ดินของอดีตพระวิรพล และคนที่เกี่ยวข้อง ตกเป็นของแผ่นดิน