นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยถึงสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ว่า ฝนที่ตกหนักตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2559 ถึงวันที่ 25 มกราคม ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดอุทกภัย วาตภัย น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคใต้และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีจังหวัดได้รับผลกระทบ 12 จังหวัด รวม 127 อำเภอ 831 ตำบล 6,286 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 584,643 ครัวเรือน 1,800,416 คน ผู้เสียชีวิต 90 ราย ผู้สูญหาย 4 ราย ถนน 4,314 จุด คอสะพาน 348 แห่ง ท่อระบายน้ำ 270 แห่ง ฝาย 126 แห่ง อ่างเก็บน้ำ 2 แห่ง สถานที่ราชการเสียหาย 25 แห่ง โรงเรียน 2,336 แห่ง ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วอยู่ระหว่างการฟื้นฟู 5 จังหวัด ได้แก่ ระนอง กระบี่ ตรัง ชุมพร และประจวบคีรีขันธ์ ยังคงมีสถานการณ์ใน 7 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี นราธิวาส ยะลา พัทลุง สงขลา และปัตตานี รวม 35 อำเภอ 200 ตำบล 1,113 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 108,847 ครัวเรือน 368,053 คน
นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า จากการคาดการณ์สภาพอากาศของสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) พบว่า ในช่วงวันที่ 25 – 27 มกราคมนี้ จะมีฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง โดยในวันที่ 25 มกราคม จะเกิดฝนตกหนักในพื้นที่อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี และ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ส่วนในช่วงวันที่ 26 – 27 มกราคม จะมีปริมาณฝนตกเพิ่มมากขึ้นและกระจายตัวเป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะบริเวณ จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงได้ประสานจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักและฝนตกสะสม
นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า จากการคาดการณ์สภาพอากาศของสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) พบว่า ในช่วงวันที่ 25 – 27 มกราคมนี้ จะมีฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง โดยในวันที่ 25 มกราคม จะเกิดฝนตกหนักในพื้นที่อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี และ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ส่วนในช่วงวันที่ 26 – 27 มกราคม จะมีปริมาณฝนตกเพิ่มมากขึ้นและกระจายตัวเป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะบริเวณ จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงได้ประสานจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักและฝนตกสะสม