นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ชาวไทยเชื้อสายจีนจะทำพิธีบูชาเทพเจ้า และแสดงความเคารพต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วด้วยการจุดธูป และการเผากระดาษเงินกระดาษทองรวมถึงสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ที่ทำจากไม้หรือเศษไม้ไผ่ เช่น รถยนต์ เครื่องประดับ เครื่องแต่งกาย เป็นต้น แต่การจุดธูปและการเผากระดาษเงินกระดาษทองจำนวนมากจะทำให้เกิดควันที่มีสารมลพิษต่างๆ มากมาย ก๊าซเรือนกระจก และสารก่อมะเร็งรวมไปถึงสารโลหะหนัก 4 ชนิด ได้แก่ โครเมียม นิกเกิล ตะกั่ว และแมงกานีส ที่พบในขี้เถ้าธูปและขี้เถ้าของกระดาษเงินกระดาษทอง ซึ่งส่งผลกระทบทั้งต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ความรุนแรงของอาการเจ็บป่วยจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับปริมาณและระยะเวลาที่ได้รับสารนั้น โดยเฉพาะประชาชน กลุ่มเสี่ยง ทั้งเด็กเล็ก สตรีมีครรภ์ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคหอบหืด โรคภูมิแพ้ โรคถุงลมปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคระบบหัวใจและ หลอดเลือด ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสควันธูป และควันจากการเผากระดาษเงิน กระดาษทองและหลีกเลี่ยงการพักผ่อนหรือนอนหลับในห้องหรือบริเวณที่มีการเผากระดาษ ประชาชนจึงควรหลีกเลี่ยงการจุดธูปและเผากระดาษเงินกระดาษทอง ในบริเวณที่อากาศไม่ถ่ายเท หรืออากาศถ่ายเทไม่สะดวก เช่น ห้องแอร์ ห้องที่ไม่มีประตูหน้าต่าง เลือกบริเวณที่อยู่เหนือทิศทางลมและห่างจากสารเคมี หรือวัตถุไวไฟ และสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองหรือใช้ผ้าชุบน้ำพอหมาดๆ ปิดปากปิดจมูกแนะใช้ธูปขนาดสั้นเพื่อให้เกิดควันระยะสั้น การเผากระดาษเงินกระดาษทอง ควรเผาทีละน้อยๆ และเผาในภาชนะที่มีฝาปิด เมื่อเสร็จพิธีการสักการะบูชาควรดับไฟด้วยน้ำ/ทราย ทันทีและภายหลังการสัมผัสควันธูปและกระดาษเงินกระดาษทองควรล้างมือ ล้างหน้า ล้างตาให้บ่อยขึ้นสำหรับศาลเจ้า ควรตั้งกระถางธูป หรือภาชนะสำหรับเผากระดาษเงินกระดาษทอง ไว้นอกอาคาร และเมื่อเสร็จพิธีแล้วต้องรีบดับไฟ เพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายของควัน และไอระเหยของสารพิษ