นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ผลการสำรวจความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทย เดือนธันวาคม 2559 อยู่ที่ระดับ 88.5 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 87.6 ในเดือนพฤศจิกายน ถือว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน และสูงสุดในรอบ 22 เดือน
สำหรับปัจจัยที่ส่งผลบวกต่อค่าดัชนีฯ ได้แก่ ยอดคำสั่งซื้อ ยอดขายและการผลิตที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี ขณะเดียวกัน ภาครัฐได้ออกมาตรการลดหย่อนภาษีเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ รวมทั้งการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า อุตสาหกรรมแฟชั่น อุตสาหกรรมอาหาร รวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนจากงานมอเตอร์เอ็กซ์โปร 2016 เป็นต้น
ส่วนปัจจัยลบ จากการสำรวจพบว่าฝนที่ตกต่อเนื่องและเกิดภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ส่งผลต่อการคมนาคมขนส่งและเกิดปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบในอุตสาหกรรมยางพารา ปาล์มน้ำมัน ไม้ยางพาราแปรรูป
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 100.0 ปรับตัวลดลงจากระดับ 102.0 ในเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากผู้ประกอบการยังมีความกังวลต่อราคาวัตถุดิบ การปรับขึ้นค่าจ้างแรงงาน และราคาน้ำมัน รวมถึงความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และสภาวะเศรษฐกิจโลก
สำหรับปัจจัยที่ส่งผลบวกต่อค่าดัชนีฯ ได้แก่ ยอดคำสั่งซื้อ ยอดขายและการผลิตที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี ขณะเดียวกัน ภาครัฐได้ออกมาตรการลดหย่อนภาษีเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ รวมทั้งการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า อุตสาหกรรมแฟชั่น อุตสาหกรรมอาหาร รวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนจากงานมอเตอร์เอ็กซ์โปร 2016 เป็นต้น
ส่วนปัจจัยลบ จากการสำรวจพบว่าฝนที่ตกต่อเนื่องและเกิดภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ส่งผลต่อการคมนาคมขนส่งและเกิดปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบในอุตสาหกรรมยางพารา ปาล์มน้ำมัน ไม้ยางพาราแปรรูป
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 100.0 ปรับตัวลดลงจากระดับ 102.0 ในเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากผู้ประกอบการยังมีความกังวลต่อราคาวัตถุดิบ การปรับขึ้นค่าจ้างแรงงาน และราคาน้ำมัน รวมถึงความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และสภาวะเศรษฐกิจโลก