ตามที่รัฐบาลได้ดำเนินการปฏิรูปประเทศตั้งแต่เริ่มเข้ามาบริหารประเทศ โดยดำเนินการมาเป็นลำดับตามโรดแมปที่ได้กำหนดไว้ เพื่อให้ประเทศมีการเปลี่ยนแปลงพัฒนาในทางที่ดีขึ้น พร้อมเข้าสู่การเลือกตั้งซึ่งจะเกิดขึ้นในระยะที่ 3 ตามโรดแมป เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน "สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,192 คน ระหว่างวันที่ 2 - 7 ม.ค.60 สรุปผลได้ ดังนี้
1.ประชาชนคิดว่าการปฏิรูปประเทศเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ณ วันนี้ มีความก้าวหน้ามากน้อยเพียงใด?
อันดับ 1 ค่อนข้างก้าวหน้า 35.63% เพราะ มีผลงานบางอย่างให้เห็นเป็นรูปธรรม เป็นการทำงานตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ตามโรดแมป มีคณะทำงานที่รับผิดชอบ ฯลฯ
อันดับ 2 ยังไม่ค่อยก้าวหน้า 29.81% เพราะ มีปัญหาที่จะต้องปฏิรูปหลายเรื่อง ปัญหาสะสมมาหลายสิบปี ต้องใช้เวลาในการดำเนินการแก้ไข ฯลฯ
อันดับ 3 ก้าวหน้า 17.70% เพราะ นายกฯ ให้ความสำคัญ มีความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหา มีแนวทางการทำงานที่ชัดเจน ฯลฯ
อันดับ 4 ไม่ก้าวหน้า 16.86% เพราะ เป็นไปได้ยาก ยังไม่เห็นผลเป็นรูปธรรม ยังมีความขัดแย้ง ประชาชนยังลำบาก ชีวิตความเป็นอยู่ยังไม่ดีขึ้น ฯลฯ
2.ประชาชนคิดว่าการปฏิรูปประเทศมีความเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งหรือไม่? อย่างไร?
อันดับ 1 เกี่ยวข้อง 71.08% เพราะ การปฏิรูปประเทศช่วยให้ระบบการเลือกตั้งมีความโปร่งใส เป็นธรรม มีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด การซื้อสิทธิ์ขายเสียงอาจน้อยลง ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่เกี่ยวข้อง 28.92% เพราะ ที่ผ่านมาถึงแม้จะมีมาตรการป้องกัน แต่ก็ยังมีการทุจริต การเลือกตั้งเป็นเรื่องของผลประโยชน์ ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของนักการเมือง ฯลฯ
3.ระหว่างการเลือกตั้งกับการปฏิรูปประเทศ ประชาชนคิดว่ารัฐบาลควรดำเนินการอย่างไร?
อันดับ 1 ปฏิรูปประเทศก่อนแล้วค่อยเลือกตั้ง 41.19% เพราะ บ้านเมืองมีปัญหาหลายด้าน ควรจะแก้ปัญหาต่างๆ ให้เสร็จก่อน จะได้มีความพร้อมและไม่เกิดปัญหาขัดแย้งภายหลัง บ้านเมืองจะได้เดินหน้าอย่างมั่นคง มีเสถียรภาพ ฯลฯ
อันดับ 2 เลือกตั้งก่อนแล้วค่อยปฏิรูปประเทศ 38.06% เพราะ จะได้มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เป็นตัวแทนของประชาชน เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ทำให้บ้านเมืองมีเสถียรภาพ ได้รับการยอมรับ ฯลฯ
อันดับ 3 เลือกตั้งและปฏิรูปประเทศไปพร้อมกัน 20.75% เพราะ การปฏิรูปประเทศต้องใช้เวลานาน การเลือกตั้งเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูป เป็นเรื่องสำคัญที่ควรทำไปพร้อมๆ กัน เพื่อให้ประเทศเดินหน้าได้ ฯลฯ
4.ประชาชนคิดว่าสถานการณ์บ้านเมือง ณ วันนี้ พร้อมจะเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งหรือไม่?
อันดับ 1 ยังไม่พร้อม 51.23% เพราะ ยังมีความขัดแย้ง กังวลว่าบ้านเมืองจะไม่สงบ อาจเกิดการชุมนุมเคลื่อนไหว ปัญหาการเมืองไทยแก้ไขได้ยาก สถานการณ์บ้านเมืองอยู่ในภาวะที่ยังไม่พร้อม จะมีพระราชพิธีสำคัญ ฯลฯ
อันดับ 2 พร้อมแล้ว 48.77% เพราะ เป็นไปตามโรดแมปที่กำหนดไว้ อยากให้บ้านเมืองเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย มีการเลือกตั้งที่มาจากความต้องการของประชาชน ประชาชนตื่นตัวและให้ความสำคัญกับการเลือกตั้ง ฯลฯ
5.ประชาชนมีความคิดเห็นอย่างไร? ถ้าการเลือกตั้งจะเลื่อนออกไปเป็นปี 2561
อันดับ 1 เห็นด้วย 36.99% เพราะ ปี 2560 จะมีพระราชพิธีสำคัญ ยังอยู่ในช่วงไว้ทุกข์ นักการเมือง พรรคการเมือง และ กกต.ได้มีเวลาเตรียมความพร้อมให้มากขึ้น ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่เห็นด้วย 32.21% เพราะ อยากให้เป็นไปตามโรดแมปที่กำหนดไว้ หากเลื่อนออกไปอาจมีปัญหาต่างๆ ตามมา อาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศ จะได้มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่แน่ใจ 30.80% เพราะ สถานการณ์บ้านเมืองมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับการบริหารประเทศของรัฐบาล กังวลว่าบ้านเมือง จะไม่สงบสุข สนใจเรื่องปากท้องชีวิตความเป็นอยู่มากกว่า ฯลฯ
1.ประชาชนคิดว่าการปฏิรูปประเทศเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ณ วันนี้ มีความก้าวหน้ามากน้อยเพียงใด?
อันดับ 1 ค่อนข้างก้าวหน้า 35.63% เพราะ มีผลงานบางอย่างให้เห็นเป็นรูปธรรม เป็นการทำงานตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ตามโรดแมป มีคณะทำงานที่รับผิดชอบ ฯลฯ
อันดับ 2 ยังไม่ค่อยก้าวหน้า 29.81% เพราะ มีปัญหาที่จะต้องปฏิรูปหลายเรื่อง ปัญหาสะสมมาหลายสิบปี ต้องใช้เวลาในการดำเนินการแก้ไข ฯลฯ
อันดับ 3 ก้าวหน้า 17.70% เพราะ นายกฯ ให้ความสำคัญ มีความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหา มีแนวทางการทำงานที่ชัดเจน ฯลฯ
อันดับ 4 ไม่ก้าวหน้า 16.86% เพราะ เป็นไปได้ยาก ยังไม่เห็นผลเป็นรูปธรรม ยังมีความขัดแย้ง ประชาชนยังลำบาก ชีวิตความเป็นอยู่ยังไม่ดีขึ้น ฯลฯ
2.ประชาชนคิดว่าการปฏิรูปประเทศมีความเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งหรือไม่? อย่างไร?
อันดับ 1 เกี่ยวข้อง 71.08% เพราะ การปฏิรูปประเทศช่วยให้ระบบการเลือกตั้งมีความโปร่งใส เป็นธรรม มีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด การซื้อสิทธิ์ขายเสียงอาจน้อยลง ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่เกี่ยวข้อง 28.92% เพราะ ที่ผ่านมาถึงแม้จะมีมาตรการป้องกัน แต่ก็ยังมีการทุจริต การเลือกตั้งเป็นเรื่องของผลประโยชน์ ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของนักการเมือง ฯลฯ
3.ระหว่างการเลือกตั้งกับการปฏิรูปประเทศ ประชาชนคิดว่ารัฐบาลควรดำเนินการอย่างไร?
อันดับ 1 ปฏิรูปประเทศก่อนแล้วค่อยเลือกตั้ง 41.19% เพราะ บ้านเมืองมีปัญหาหลายด้าน ควรจะแก้ปัญหาต่างๆ ให้เสร็จก่อน จะได้มีความพร้อมและไม่เกิดปัญหาขัดแย้งภายหลัง บ้านเมืองจะได้เดินหน้าอย่างมั่นคง มีเสถียรภาพ ฯลฯ
อันดับ 2 เลือกตั้งก่อนแล้วค่อยปฏิรูปประเทศ 38.06% เพราะ จะได้มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เป็นตัวแทนของประชาชน เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ทำให้บ้านเมืองมีเสถียรภาพ ได้รับการยอมรับ ฯลฯ
อันดับ 3 เลือกตั้งและปฏิรูปประเทศไปพร้อมกัน 20.75% เพราะ การปฏิรูปประเทศต้องใช้เวลานาน การเลือกตั้งเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูป เป็นเรื่องสำคัญที่ควรทำไปพร้อมๆ กัน เพื่อให้ประเทศเดินหน้าได้ ฯลฯ
4.ประชาชนคิดว่าสถานการณ์บ้านเมือง ณ วันนี้ พร้อมจะเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งหรือไม่?
อันดับ 1 ยังไม่พร้อม 51.23% เพราะ ยังมีความขัดแย้ง กังวลว่าบ้านเมืองจะไม่สงบ อาจเกิดการชุมนุมเคลื่อนไหว ปัญหาการเมืองไทยแก้ไขได้ยาก สถานการณ์บ้านเมืองอยู่ในภาวะที่ยังไม่พร้อม จะมีพระราชพิธีสำคัญ ฯลฯ
อันดับ 2 พร้อมแล้ว 48.77% เพราะ เป็นไปตามโรดแมปที่กำหนดไว้ อยากให้บ้านเมืองเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย มีการเลือกตั้งที่มาจากความต้องการของประชาชน ประชาชนตื่นตัวและให้ความสำคัญกับการเลือกตั้ง ฯลฯ
5.ประชาชนมีความคิดเห็นอย่างไร? ถ้าการเลือกตั้งจะเลื่อนออกไปเป็นปี 2561
อันดับ 1 เห็นด้วย 36.99% เพราะ ปี 2560 จะมีพระราชพิธีสำคัญ ยังอยู่ในช่วงไว้ทุกข์ นักการเมือง พรรคการเมือง และ กกต.ได้มีเวลาเตรียมความพร้อมให้มากขึ้น ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่เห็นด้วย 32.21% เพราะ อยากให้เป็นไปตามโรดแมปที่กำหนดไว้ หากเลื่อนออกไปอาจมีปัญหาต่างๆ ตามมา อาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศ จะได้มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่แน่ใจ 30.80% เพราะ สถานการณ์บ้านเมืองมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับการบริหารประเทศของรัฐบาล กังวลว่าบ้านเมือง จะไม่สงบสุข สนใจเรื่องปากท้องชีวิตความเป็นอยู่มากกว่า ฯลฯ