นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ได้นำคณะผู้จัดงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ หรืองาน Bangkok Gems and Jewelry Fair (BGJF) เข้าพบนายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร เพื่อขอบคุณที่ให้ความร่วมมือและอำนวยความสะดวกการจัดงานแสดงสินค้า BGJF ครั้งที่ 58 ทำให้งานสำเร็จลุล่วงด้วยดี
นางมาลี กล่าวว่า กรมศุลกากรมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งกับความสำเร็จของงาน BGJF ครั้งที่ผ่านมา โดยเฉพาะมาตรการยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ (พิกัด 71) ซึ่งเป็นสิทธิประโยชน์เฉพาะงาน BGJF งานเดียวเท่านั้นที่จัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ มีการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างเจ้าหน้าที่ของทั้ง 2 กรม เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปอย่างถูกต้องตามระเบียบ การเข้าพบอธิบดีกรมศุลกากรครั้งนี้ยังได้หารือเกี่ยวกับการเตรียมการจัดงาน และให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีแก่สินค้าที่จัดแสดงและจำหน่ายในงาน BGJF ครั้งที่ 59 ซึ่งกำหนดจัดระหว่างวันที่ 22 – 26 กุมภาพันธ์ 2560 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1 – 3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี ด้วย
สำหรับงาน BGJF เป็นงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับงานเดียวในประเทศไทยที่ได้รับการยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับอัญมณีและเครื่องประดับที่นำเข้ามาจัดแสดงและจำหน่ายภายในงาน ครอบคลุมสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับทั้งพิกัด 71 โดยมีเงื่อนไขจะต้องเป็นสินค้าที่นำเข้าผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง หรือหากผู้ประกอบการเดินทางเข้ามาประเทศไทยพร้อมสินค้า ต้องสำแดงสินค้าผ่านช่อง Goods to Declare ณ ท่าอากาศยานทั้ง 2 แห่ง เพื่อใช้สิทธิยกเว้นอากร ผู้ประกอบการที่ประสงค์จะได้รับสิทธิประโยชน์ดังกล่าวจะต้องกรอกเอกสาร Form C 19 ใน Exhibitor Manual และส่งกลับเพื่อให้กรมฯ ดำเนินการต่อไป การจัดงาน BGJF นับเป็นภารกิจและกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของภาครัฐที่ต้องการผลักดันและพัฒนาศักยภาพการผลิตการค้าสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตและการค้าอัญมณีและเครื่องประดับ (Jewelry Hub) ของโลก อีกทั้งยังเป็นงานแสดงสินค้าที่ยิ่งใหญ่ประจำปีของไทยและเป็นกิจกรรมสำคัญที่มีส่วนช่วยมูลค่าการส่งออกของสินค้าดังกล่าว โดยการส่งออก 11 เดือนปี 2559 (ม.ค. – พ.ย.) สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 3 ของประเทศ มีมูลค่า 13,397.37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวถึงร้อยละ 28.30
นางมาลี กล่าวว่า กรมศุลกากรมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งกับความสำเร็จของงาน BGJF ครั้งที่ผ่านมา โดยเฉพาะมาตรการยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ (พิกัด 71) ซึ่งเป็นสิทธิประโยชน์เฉพาะงาน BGJF งานเดียวเท่านั้นที่จัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ มีการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างเจ้าหน้าที่ของทั้ง 2 กรม เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปอย่างถูกต้องตามระเบียบ การเข้าพบอธิบดีกรมศุลกากรครั้งนี้ยังได้หารือเกี่ยวกับการเตรียมการจัดงาน และให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีแก่สินค้าที่จัดแสดงและจำหน่ายในงาน BGJF ครั้งที่ 59 ซึ่งกำหนดจัดระหว่างวันที่ 22 – 26 กุมภาพันธ์ 2560 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1 – 3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี ด้วย
สำหรับงาน BGJF เป็นงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับงานเดียวในประเทศไทยที่ได้รับการยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับอัญมณีและเครื่องประดับที่นำเข้ามาจัดแสดงและจำหน่ายภายในงาน ครอบคลุมสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับทั้งพิกัด 71 โดยมีเงื่อนไขจะต้องเป็นสินค้าที่นำเข้าผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง หรือหากผู้ประกอบการเดินทางเข้ามาประเทศไทยพร้อมสินค้า ต้องสำแดงสินค้าผ่านช่อง Goods to Declare ณ ท่าอากาศยานทั้ง 2 แห่ง เพื่อใช้สิทธิยกเว้นอากร ผู้ประกอบการที่ประสงค์จะได้รับสิทธิประโยชน์ดังกล่าวจะต้องกรอกเอกสาร Form C 19 ใน Exhibitor Manual และส่งกลับเพื่อให้กรมฯ ดำเนินการต่อไป การจัดงาน BGJF นับเป็นภารกิจและกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของภาครัฐที่ต้องการผลักดันและพัฒนาศักยภาพการผลิตการค้าสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตและการค้าอัญมณีและเครื่องประดับ (Jewelry Hub) ของโลก อีกทั้งยังเป็นงานแสดงสินค้าที่ยิ่งใหญ่ประจำปีของไทยและเป็นกิจกรรมสำคัญที่มีส่วนช่วยมูลค่าการส่งออกของสินค้าดังกล่าว โดยการส่งออก 11 เดือนปี 2559 (ม.ค. – พ.ย.) สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 3 ของประเทศ มีมูลค่า 13,397.37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวถึงร้อยละ 28.30