วันนี้ (19 ธ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้การต้อนรับ พล.ท.อาวุโส โต เลิม รัฐมนตรีความมั่นคงสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ที่เข้าเยี่ยมคารวะในโอกาสเดินทางเยือนไทย เพื่อเข้าร่วมการประชุมระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงความมั่นคงสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ระดับบริหาร ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 18-21 ธันวาคมนี้
พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญการหารือ ว่า นายกรัฐมนตรีฝากคำชื่นชมไปยังนายกรัฐมนตรีเหงียน ซวน ฟุก ของเวียดนาม ที่สามารถพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าและเจริญรุ่งเรือง พร้อมส่งเสริมความร่วมมือไทยและเวียดนามจนมีพัฒนาการทางด้านความสัมพันธ์มาอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะด้านความมั่นคง ความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ และความร่วมมือทางด้านข่าวกรอง ทั้งนี้ หวังว่าหน่วยงานความมั่นคงของทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดต่อไป
ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม แสดงความเสียใจต่อรัฐบาลไทยและประชาชนชาวไทยต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับประเทศไทย พร้อมกล่าวว่า ปัจจุบันหน่วยงานทางด้านความมั่นคงของทั้งสองฝ่ายต้องเผชิญกับอาชญากรรมข้ามชาติ การก่อการร้าย การค้ามนุษย์ อาชญากรรมต่อสัตว์ป่าและสิ่งแวดล้อม จึงขอให้นายกรัฐมนตรีเร่งผลักดันกลไกที่มีอยู่ รวมถึงการลงนามกฎหมายต่างๆ อาทิ สนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน เพื่อเป็นเครื่องมือสำหรับหน่วยงานด้านความมั่นคงของทั้งสองฝ่าย
ขณะเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่า ไทยและเวียดนามจำเป็นต้องเพิ่มพูนความร่วมมืออย่างใกล้ชิดในการแก้ไขปัญหาเรือประมงเวียดนามรุกล้ำน่านน้ำไทยและปัญหาการค้ามนุษย์ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังเสนอให้ทั้งสองฝ่ายมีช่องการติดต่อกรณีฉุกเฉิน เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาที่เกิดขึ้นลุกลามจนเกิดความรุนแรงด้วย
พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญการหารือ ว่า นายกรัฐมนตรีฝากคำชื่นชมไปยังนายกรัฐมนตรีเหงียน ซวน ฟุก ของเวียดนาม ที่สามารถพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าและเจริญรุ่งเรือง พร้อมส่งเสริมความร่วมมือไทยและเวียดนามจนมีพัฒนาการทางด้านความสัมพันธ์มาอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะด้านความมั่นคง ความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ และความร่วมมือทางด้านข่าวกรอง ทั้งนี้ หวังว่าหน่วยงานความมั่นคงของทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดต่อไป
ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม แสดงความเสียใจต่อรัฐบาลไทยและประชาชนชาวไทยต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับประเทศไทย พร้อมกล่าวว่า ปัจจุบันหน่วยงานทางด้านความมั่นคงของทั้งสองฝ่ายต้องเผชิญกับอาชญากรรมข้ามชาติ การก่อการร้าย การค้ามนุษย์ อาชญากรรมต่อสัตว์ป่าและสิ่งแวดล้อม จึงขอให้นายกรัฐมนตรีเร่งผลักดันกลไกที่มีอยู่ รวมถึงการลงนามกฎหมายต่างๆ อาทิ สนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน เพื่อเป็นเครื่องมือสำหรับหน่วยงานด้านความมั่นคงของทั้งสองฝ่าย
ขณะเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่า ไทยและเวียดนามจำเป็นต้องเพิ่มพูนความร่วมมืออย่างใกล้ชิดในการแก้ไขปัญหาเรือประมงเวียดนามรุกล้ำน่านน้ำไทยและปัญหาการค้ามนุษย์ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังเสนอให้ทั้งสองฝ่ายมีช่องการติดต่อกรณีฉุกเฉิน เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาที่เกิดขึ้นลุกลามจนเกิดความรุนแรงด้วย
